จำคุก 26 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ สมคบฟอกเงิน คดีเงินทอนวัด 28 ล้านบาท
วันที่ 18 เม.ย.62 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดพิพากษาคดีฟอกเงินทอนวัด ที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ ขันทอง หรือ อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค ในความผิดฐานร่วมกัน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ยังหลบหนี สมคบกันฟอกเงินในคดีเงินทอนวัด
โดยพฤติกรรมของอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด 12 คดี ใน 12 วัด ในเขต จ.เพรชบูรณ์,นครสวรรค์,ตากและชุมพร มูลค่าความเสียหายประมาณ 28 ล้านบาทพบเส้นทางการเงินนำไปซื้อรถยนต์โดยใช้ชื่อผู้อื่นครอบครองมีการสั่งจ่ายเช็คจำนวนหลายฉบับนอกจากนี้ยังมีความพยายามนำทรัพย์สินไปขายต่อให้บุคคลอื่นด้วย
หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานจากการนำสืบของฝ่ายโจทก์และจำเลย ศาลพิพากษาจำคุกอดีตพระครูกิตติพัชรคุณ กระทงละ 3 ปี ทั้งหมด 13 กระทง รวมจำคุก 39 ปี แต่จากคำให้การของจำเลย เป็นประโยชน์บางส่วน จึงพิจารณาลดโทษ 1 ใน 3 คง เหลือโทษจำคุกรวม 26 ปี
สำหรับ“พระครูกิตติ พัชรคุณ” หรือ นายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 53 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค และอดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฟอกเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือเงินทอนวัด 12คดี โดยคดีเงินทอนวัดเกิดขึ้นหลังจากที่ พระครูกิตติ พัชรคุณ ถูกจับกุมดำเนินคดีอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2561 และถูกฝากขังก่อนได้ประกันตัว วงเงิน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนเกี่ยวกับเงินทอนวัด พบว่า “พระครูกิตติพัชรคุณ” มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด 12 คดี ใน 12 วัด ความเสียหาย 28 ล้านบาท โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้สรุปสำนวนคดีส่งไปให้ ป.ป.ช. ซึ่งได้มีการส่งต่อคดี 2 สำนวน ไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน “พระครูกิตติพัชรคุณ” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา