“สรรพากร” เตรียมรื้อเกณฑ์เก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าปีละ 2 หมื่นบาท หลังประชาชนแตกตื่น-สับสน ปรับวิธีให้เฉพาะผู้มีรายได้ดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาทมาลงทะเบียน
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 15% ซึ่งคาดว่าจะออกประกาศฉบับใหม่ได้ในอีก 1-2 สัปดาห์ หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนผู้ฝากเงินสับสนและตื่นตระหนกว่ากรมฯจะเข้าไปเก็บดอกเบี้ยจากเงินฝากจากทุกบัญชี จากเดิมที่เว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท/ปี
“ประกาศใหม่จะมีการแก้ไขในประเด็นการแสดงความยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งยอมรับว่าตามประกาศฉบับเดิมสร้างความยุ่งยาก และมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก”นายปิ่นสายกล่าว
นายปิ่นสาย ยังกล่าวว่า ในวันนี้ กรมฯได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยถึงแนวทางการแสดงความยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อให้กระทบกับผู้ฝากเงินส่วนใหญ่น้อยที่สุด โดยเฉพาะกลุ่ม 99% ที่มีดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไม่ถึง 20,000 บาทต่อปี ซึ่งต้องหาวิธีแสดงความยินยอมที่ยืดหยุ่น เช่น ให้กลุ่มที่ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่า 20,000 บาทต่อปี ซึ่งมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% มาลงทะเบียนแสดงความไม่ยินยอมให้ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากแทน ทำให้ผู้ฝากเงินกว่า 99% ไม่ต้องแสดงตน และได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝากเหมือนเดิม
นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกค้าบัญชีเงินฝากกว่า 80 ล้านบัญชี หากให้ลูกค้ามาแสดงความยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากทั้งหมด คาดว่าจะไม่ทันในรอบการจ่ายดอกเบี้ย มิ.ย.นี้ และจะมีลูกค้าส่วนใหญ่ต้องได้รับผลกระทบจากประกาศของกรมสรรพากรถูกหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากจากทุกบัญชีทันที ดังนั้น สมาคมฯจึงเสนอว่า หากกรมสรรพากรไม่สามารถเลื่อนการบังคับประกาศฉบับดังกล่าวได้ ก็ให้กรมฯไปพิจารณาว่าจะมีวิธีการยืดหยุ่นหลักเกณฑ์ในการแสดงความยินยอมของลูกค้าบัญชีเงินฝากด้วยวิธีใดได้บ้าง ที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
“สมาคมฯจะทำงานร่วมกับกรมสรรพากร เพื่อหาวิธีการให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่น กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่สามารถมาแสดงความยินยอมได้ จะทำแบบรายการแสดงความยินยอมแบบเดียวเพื่อใช้กับทุกธนาคาร และจะแสดงความยินยอมเพียงครั้งเดียวครอบคลุมทุกบัญชีได้หรือไม่ รวมทั้งจะมีการส่งแจ้งข้อมูลแบบรายบุคคลไปถึงลูกค้าให้มาแสดงความยินยอมหรือไม่ ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไร ต้องรอความชัดเจนจากกรมสรรพากรอีกครั้ง”นายกอบศักดิ์กล่าว
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์อยู่ 10 ล้านบัญชี วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ยืนยันว่าลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ จึงไม่อยากให้ลูกค้าเกิดความตื่นตระหนก เพราะที่ผ่านมาได้ดำเนินตามกฎระเบียบมาโดยตลอด ซึ่งธนาคารได้มีการหารือกันในเรื่องนี้มากว่า 1 ปีแล้ว จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสภาสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐจะมีการประชุมเรื่องดังกล่าวกันในต้นเดือนพ.ค.นี้ เพื่อทำความเข้าใจและหาแนวทางในการดำเนินการตามประกาศของกรมสรรพากรที่ออกมา