กกร.มีมติเห็นชอบ 3 มาตรการ กำกับดูแล “ค่ายา-เวชภัณฑ์-ค่าบริการทางการแพทย์” ไม่ห่วงสมาคมโรงพยาลเอกชนฟ้อง เหตุยังไม่มีการควบคุมกำหนดราคา เพียงแต่ทำให้เกิดความโปร่งใส
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกร.มีมติเห็นชอบมาตรการกำกับดูแลราคายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการยาและเวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯดังกล่าวทำหน้าที่ประสานและแจ้งมติ กกร.ไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับมาตรการยาและเวชภัณฑ์ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล มีหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ
1.ราคาโปร่งใส-เป็นธรรม
2.ผู้บริโภคต้องมีทางเลือก
3.การรักษาที่สมเหตุสมผล
นอกจากนี้ จะมีการสร้างเครือข่ายและรณรงค์การตรวจสอบค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์เพื่อรักษาสิทธิของผู้ป่วยอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในทุกช่องทาง และให้มีการบูรณาการร่วมกันจากหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน จัดทำฐานข้อมูลเวชภัณฑ์และค่าบริการทางการแพทย์ให้มีบัญชีและรหัสมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้ายา รวมทั้งให้มีการติดตามและทบทวนมาตรการให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์เป็นระยะ
“การกำหนดให้แจ้งราคายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ เป็นเรื่องที่โรงพยาบาลต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยา และเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3) พ.ศ. 2561 (อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม)”น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมา กล่าวถึงกรณีที่สมาคมโรงพยาลเอกชน 42 ราย ฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนมติ กกร. ในวันนี้ ว่า ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม มาตรการกกร.มีมติเห็นชอบไปนั้น ยังไม่มีการเข้าไปควบคุมกำหนดราคาแต่อย่างใด แต่เป็นการทำให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรมแก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ อีกทั้งเป็นการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ภายใต้พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542