ปู่มหามุนี ออกตัวแรงบุก บก.ปอท. เพื่อขอรับทราบข้อกล่าวหากรณีไลฟ์สดกับ โทนี่ บุหรี่ทำเอง นัวเนียสาวใส่บิกินี่ แต่มาเก้อไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
13 พ.ค. 2562 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บก.ปอท. นายชัยรัตน์ ยอดพรม หรือ ปู่มหามุนี อริยะดาบส อายุ 38 ปี เจ้าของสำนักสักยันต์ปู่มหามุนี และรับงานประกอบศาสนพิธีกรรมท้องถิ่น ปัจจุบันเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้านสายไสยศาสตร์ เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ธุรการ ติดต่อขอพบพ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปอท. หลังจากที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชี่ยลฯ กระจายออกไปว่า ทาง บก.ปอท.เตรียมออกหมายเรียกนายชัยรัตน์ มารับทราบข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีไลฟ์สดนัวเนียกับหญิงสาวในชุดบิกินี่ร่วมกับนายโทนี บุหรีทำเอง ซึ่งพ.ต.อ.นิติพัฒน์ ติดภารกิจอยู่ภายนอกจึงไม่ได้พบ
นายชัยรัตน์ หรือ ปู่มหามุนี กล่าวว่า ตนทราบมาจากในโลกออนไลน์เห็นว่าทาง บก.ปอท.พิจารณาจะดำเนินคดีกับตน และจะมีหมายเรียกให้ตนมารับทราบข้อหา วันนี้จึงได้เดินทางมาติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตนเป็นคนไทยคนหนึ่งเมื่อกระทำความผิดก็อยากจะมารับทราบข้อกล่าวหาถ้าเป็นความจริง ก็จะให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฏหมายบ้านเมือง
สำหรับเรื่องนี้ เริ่มต้นจากการที่ตนไปไลฟ์สดกับลุงโทนี่ บุหรี่ทำเอง เป็นการสร้างความบันเทิงให้กับโลกโซเชียลฯ เห็นว่ามีเพจหนึ่งกล่าวหาว่ากระทำอนาจารในการไลฟ์สดดังกล่าว และยังกล่าวว่าหาตนส่งเสริมในเรื่องของการพนันด้วย
ทั้งนี้สังคมโซเชียลฯ จะทราบกันดีว่าตนไม่รู้หนังสือภาษาอังกฤษ ตนเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง จะทำได้ก็แค่การไลฟ์สดเก่งเพียงอย่างเดียวจะใช้เพื่อการสอนสังคม ให้แนวคิด และมุมมองในโลกความเป็นจริงมากกว่า
ปู่มหามุนี กล่าวต่อว่า เพจดังกล่าวซึ่งเป็นคู่กรณีกับตนได้มีการท้าทายตน มีท้าตนชกต่อย เป็นการเลียนแบบเหมือนกับตอนที่ตนท้าชกกับ มาร์ค พิทบูล คนดูแลเพจดังกล่าวตนไม่รู้จักเขาจริงๆ ทั้งที่ตนได้มีการโพสต์ขอโทษเขาไปแล้ว แต่เพจดังกล่าวกับยังไม่หยุดมีการท้าทายตนตลอดมา
“ตนติดตามเพจของทนายคลายทุกข์ของทนายเดชา ที่ตนเป็นแฟนคลับฟังอยู่เป็นประจำ แนะนำตนว่าถ้าเกิดเหตุดังกล่าวจริงก็ขอให้ไปหาผู้ใหญ่ติดต่อสอบถามและชี้แจงให้ท่านทราบจะเป็นสิ่งที่ดี ตนจึงเดินทางมาติดต่อวันนี้แต่ก็ยังไม่ได้รับความกระจ่างว่าตนมีหมายเรียกหรือหมายจับของ บก.ปอท.แล้วหรือยัง การที่ตนเดินทางมาขอทราบข้อกล่าวหา เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริง ถ้าเราไม่ได้กระทำความผิดตำรวจจะไม่ทำอะไร ตนมาขอทราบว่ามีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร ไม่อยากเห็นสังคมพูดจายุยงโจมตีกันไปมา ตนจะแสดงให้เห็นว่าคนให้ความเคารพกฎหมายบ้านเมืองถ้ากระทำความผิดตนยินดีมารับทราบข้อหาแน่นอน”
นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ เล่าถึงการไลฟ์สดที่เป็นต้นเหตุครั้งนี้ว่า ได้รับค่าจ้าง 4-5 พันบาทในการไลฟ์สดแต่ละครั้ง กรณีนี้จะมีนายทุนเจ้าของครีม เจ้าของยาเส้น ติดต่อมาให้ตนไปนั่งร่วมในการไลฟ์สดมีการเต้นกับน้องผู้หญิง ซึ่งก็มีการเขียนขึ้นต้นไว้ว่าเป็นการแสดงเพื่อความบันเทิง ตนได้มีการแต่งตัว ทำผมสีทองๆ ให้เข้ากับบรรยากาศในการไลฟ์สดครั้งนั้น เป็นไอเดียความคิดของตนและของลุงโทนี่ร่วมกันเพื่อสร้างความสนุกสนาน เฮฮา มีรอยยิ้ม ผ่อนคลาย ปกติสังคมออนไลน์จะมีการแหย่กัน ด่ากัน แกล้งกันสนุกๆ กันไป แต่ในโลกความเป็นจริงเราเคารพในสิทธิซึ่งกันและกันอยู่แล้ว
“ตนยืนยันว่าวันที่ไลฟ์สดเป็นการรับงาน ปกติทุกบริษัทที่จ้างตนมา ตนจะมีกฎในการรับงานคือจะต้องไม่ผิดกฎหมาย ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตนจะไม่ให้ความสนใจเลย ส่วนกรณีกล่าวหาว่าตนไปดำเนินการให้เว็บการพนันนั้นตนขอปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย ตนไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษอะไร จบแค่ ป.4 ทุกคนก็รู้ คนอื่นจะทราบดีว่าตนไม่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์อะไรเลย จะรู้แค่การไลฟ์สดที่กดเป็นเท่านั้นเอง”
นายชัยวัฒน์ หรือปู่มหามุนี ยืนยันว่า ถ้า บก.ปอท.ออกหมายเรียกหรือหมายจับตนจริงก็ยินดีที่จะเดินทางมามอบตัวรับทราบข้อหาเพิ่อพิสูจน์การกระทำขอตนทันที ไม่หลบหนีไปไหนแน่นอน