“กูเกิล” ออกแถลงการณ์ระงับความร่วมมือ “หัวเว่ย” ส่งผลให้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นต่อไป โหลดแอพฯของกูเกิลไม่ได้
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อัลฟาเบท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ “กูเกิล” ออกแถลงการณ์ระงับความร่วมมือทางธุรกิจบางด้านกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ของจีน ในการถ่ายโอนผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคำสั่ง “สถานการณ์ฉุกเฉินด้านเทคโนโลยี” ซึ่งส่งผลให้หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำจากสหรัฐ ในฐานะบริษัทที่เป็นภัยด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ การระงับความร่วมมือของกูเกิลดังกล่าว จะทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย (Huawei) รุ่นต่อไป จะไม่สามารถไม่ถึงแอพพลิเคชันและการบริการเป็นกรรมสิทธิ์ของกูเกิลได้ โดยเฉพาะแอพฯยอดนิยม เช่น Google Play Store , Gmail และ YouTube และจะได้สิทธิ์ในการเข้าถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นที่เป็นสาธารณะหรือ Android Open Source Project (AOSP) เท่านั้น
“แอพฯยอดนิยมของกูเกิล เช่น Gmail, YouTube และเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งพร้อมใช้งานผ่าน Play Store จะหายไปจากโทรศัพท์มือถือของหัวเว่ยในอนาคต เนื่องจากบริการเหล่านั้นไม่ได้รับการคุ้มครองโดยใบอนุญาตโอเพนซอร์ส”รายงานข่าวระบุ
แหล่งข่าวระบุว่า กูเกิลกำลังหารือเป็นการภายในเกี่ยวกับรายละเอียดของการบริการต่างๆ ในขณะที่ทีมกฏหมายของหัวเว่ย กำลังศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หัวเว่ย ได้จัดทำแผนฉุกเฉินในการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองในกรณีที่ถูกปิดกั้นไม่ให้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ย
ข้อมูลจาก International Data Corporation หรือ IDC ระบุว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา หัวเว่ยมียอดขายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วโลก 206 ล้านเครื่อง มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก Sumsung ที่มียอดขาย 292.3 ล้านเครื่อง และ Apple ที่มียอดขาย 208.8 ล้านเครื่อง ขณะที่สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่เป็นที่นิยมในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทวิจัยคานาลิส (Canalys) ระบุว่า ไตรมาส 4 ปี 2561 หัวเว่ยมียอดขายสมาร์ทโฟนในไทย 6.45 แสนเครื่อง