สัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.2% ปิดที่ 58.63 เหรียญสหรัฐ กังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐส่งทหาร 1,500 นายเข้าประจำการในตะวันออกกลาง
เมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 58.63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.72 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.2% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 68.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.93 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.4%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้แรงหนุนจากการที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานมีจำนวนลดลง โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 797 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2561
ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากการความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลา ในขณะที่กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรนำโดยรัสเซีย ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันมาตั้งแต่เดือนเดือนม.ค.2562 จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยืดเยื้อ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต รวมถึงการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น และทำให้สหรัฐกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแซงหน้าซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย เป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันดิบ
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27 พ.ค. ว่า เมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 1 จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ส่งทหาร 1,500 นายไปประจำการในตะวันออกกลาง
พร้อมทั้งยังเดินหน้าขายอาวุธมูลค่ากว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน โดยอ้างว่าใช้สำหรับรับมืออิหร่าน โดยไม่รอฟังความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
ขณะที่ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับตัวลดลงสามสัปดาห์ติดต่อกัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค.2562 ปรับลดลงจำนวน 5 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 797 แท่น แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ยังคงคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ว่าจะแตะระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน ในไตรมาส 4/2562
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค.2560