“สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจปชช.ต่อสถานการณ์การเมือง พบว่าส่วนใหญ่คนไทยห่วงระเบิดมากที่สุด อีกทั้งไม่เชื่อมั่นรัฐบาลฝ่าวิกฤตได้
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,182 คน ระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2562 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์บ้านเมือง
หลังจากที่รัฐบาลประยุทธ์ 2 เข้ามาบริหารประเทศได้ไม่นาน แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังคงร้อนแรงมีหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และจับตามองว่ารัฐบาลจะฝ่าวิกฤตการเมืองไปได้หรือไม่ จึงได้สรุปผลได้ ดังนี้
โดยคำถามแรก ได้ถามถึง “5 อันดับ สถานการณ์การเมืองไทย” ณ วันนี้ ที่ประชาชนเป็นห่วงมากที่สุด ปรากฏว่า 83.30% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุถึงเหตุการณ์ระเบิดในกทม. เป็นสิ่งที่น่าห่วงมากที่สุด ตามด้วย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการวิวาทะระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีผู้ตอบแบบสำรวจใกล้เคียงกันมาก ที่ 65.59% และ 64.94% ตามลำดับ เรื่องการถวายสัตย์ของนายกรัฐมนตรี น่าเป็นห่วงคิดเป็น 56.60% และ การแยกตัวของพรรคเล็กบางพรรคจากรัฐบาล น่าเป็นห่วงคิดเป็น 55.62%
เมื่อถามว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นในการฝ่าวิกฤตการเมืองของรัฐบาล ณ วันนี้ มากน้อยเพียงใด 38.70% ตอบว่าไม่ค่อยเชื่อมั่น อีก 36.06% ตอบว่าไม่เชื่อมั่น มีเพียง 5.97% ที่ตอบว่าเชื่อมั่นมาก และ 19.27% ค่อนข้างเชื่อมั่น
เมื่อถามอีกว่าใครที่ประชาชนคิดว่าจะสามารถช่วยฝ่าวิกฤตทางการเมืองให้ผ่านไปได้ 36.73% ตอบว่าประชาชน ขณะที่ 27.46% ตอบว่าฝ่ายค้าน อีก 21.86% ตอบว่าฝ่ายรัฐบาล และ 13.95% ตอบว่าทุกคนทุกฝ่าย
นอกจากนี้ คำถามสุดท้าย ทำอย่างไร การเมืองไทย ณ วันนี้ จึงจะผ่านพ้นวิกฤต 56.88% ตอบว่า หยุดการทะเลาะเบาะแว้ง รับฟังความเห็นต่างให้มากขึ้น 49.32% ระบุว่าต้องเห็นแก่ส่วนรวมเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง และ 21.94% อยากให้ช่วยกันปฏิรูปการเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
อ่านข่าว Bright Today