พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมจับมือ ดาวสภา หวังใกล้ชิดปชช. ปัดบรรจุญัตติเปิดอภิปราย บิ๊กตู่ ปมถวายสัตย์ฯเพื่อขับไล่รัฐบาล
เมื่อวันที่ (25 ส.ค.) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย จัดงาน “จับมือดาวสภาพรรคเพื่อไทย” นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยส.ส.ของพรรคที่มีผลงานโดดเด่นในสภาผู้แทนราษฎร ประกอบไปด้วย ใหญ่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. และน.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีบรรดาแฟนคลับของพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมกิจกรรมจับมือ ดาวสภา พรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรกของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และพบปะกับสมาชิกพรรค เพราะหลายปีที่ผ่านมาปัญหาของประชาชนมีจำนวนมาก จนถึงปัจจุบันแม้จะมีรัฐบาลแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็พร้อมจะทำหน้าที่แก้ปัญหาให้กับประชาชน และต้องทำงานอย่างหนักโดยไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว จากนี้พรรคจะพยายามจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ และในสัปดาห์หน้าจะมีกิจกรรมเปิดใจเลขาธิการพรรคและโฆษกพรรคด้วย
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณีการเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลว่า เป็นหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว โดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และเห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล แต่ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณายกเลิกวีซ่านักเที่ยวจีนและอินเดีย ส่วนการบรรจุญัตติเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนนั้น ไม่ควรเอาเรื่องของเวลามาเป็นตัวกำหนด หลังจากกำหนดกรอบเวลาเพียงแค่ 1 วัน แต่ควรคำนึงถึงเนื้อหาเพื่อหาทางออกให้กับรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อขับไล่รัฐบาลแต่อย่างใด
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวปฏิเสธกระแสข่าวส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทยเป็นงูเห่า และย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยมองว่าเป็นการเล่นการเมืองเก่าที่น่ารังเกียจและย้อนยุค เพื่อแย่งและใช้อำนาจอย่างอื่นมาต่อรอง ขณะนี้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำโดยมีความพยายามเอาผลประโยชน์ พร้อมย้ำว่า
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ย้ายพรรคไปไหน ส่วนพรรคพลังประชารัฐตั้งเป้า จะดึง ส.ส.เพิ่ม ให้ได้ 270 เสียงนั้น อยากให้ข้อคิดพรรคพลังประชารัฐว่า หากคิดจะอยู่ยาวด้วยการกวาดต้อนส.ส.จากพรรคอื่น เพื่อให้พรรคมีความมั่นคงหรือเป็นรัฐบาลที่อยู่ยาว หากมีอำนาจเงินและอำนาจรัฐสามารถให้องค์กรอิสระใช้คดีมาบีบบังคับได้ แต่สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลมีอายุสั้นหรืออายุยืน ไม่ใช่แค่มือในสภา แต่คือความศรัทธาของประชาชน และผลงานที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชน
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ตนเองไม่สบายใจในการใช้งบประมาณแผ่นดินมาหว่านส.ส.ต่างพรรคด้วยการเทงบประมาณลงไปในพื้นที่ จึงอยากเตือนพรรคพลังประชารัฐอย่างบประมาณทั้งหมด เพราะไม่ใช่เงินในกระเป๋าส่วนตัว แต่หากประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐจะควักเงินในกระเป๋าตัวเองมาใช้ก็ไม่เป็นไร แต่หากเอาเงินหลวงมาใช้ งบประมาณนั้นจะต้องเกิดประโยชน์กับประชาชนและตรวจสอบได้