แอปพลิเคชัน TikTok นั้นเป็นแอปฯ สำหรับโพสต์คลิปวิดีโอที่นิยมมากในหมู่คนจีน จากนั้นก็เริ่มแพร่หลายไปยังทั่วโลก โดยมีผู้เล่นแอปฯ นี้มากกว่า 120 ล้านคน ซึ่ง 500 ล้านคนที่เป็นผู้ใช้จากประเทศอินเดีย แต่ล่าสุดอินเดียได้ประกาศแบนแอปฯ นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
https://youtu.be/hlj1uJ151h4
เมื่อคืนวันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ.2562 ทาง Google Play และ Apple ได้ดึงแอปฯ TikTok ออกจาก Google Play และ App Store เป็นที่เรียบร้อย ตามคำสั่งศาลสูงจากประเทศอินเดีย โดยเหตุผลในการถอดแอปฯ นี้ออกก็เนื่องมาจากแอปฯ ดังกล่าวทำให้ประเทศอินเดียมีภาพลามกอนาจารเกิดขึ้น
บริษัท ByteDance ในจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตแอปพลิเคชัน TikTok ได้ท้าทายคำตัดสินของศาลสูงในประเทศอินเดีย โดยการบอกว่าการทำเช่นนี้เป็นการขัดต่อสิทธิมนุษยชน แต่ทางศาลสูงก็ไม่ได้ฟังคำคัดค้านแต่อย่างใด
การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่าเป็นการโจมตีแอปฯ TikTok ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 120 ล้านคน โดยในแอปฯ มี 500 ล้านคนที่เป็นผู้ใช้จากประเทศอินเดีย โดยแอปฯ ดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองเล็ก ๆ หลายร้อยแห่งในอินเดีย แถมผู้คนเหล่านั้นหลายล้านคนเพิ่งจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก
จากข้อมูลจากบริษัทที่ทำการวิเคราะห์การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Sensor Tower ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ในเดือนมกราคม พ.ศ.2562 มีชาวอินเดียกว่า 30 ล้านคนที่ติดตั้งแอปฯ TikTok ซึ่งเพิ่งขึ้นถึง 12 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดือนมกราคม พ.ศ.2561
อีกอย่างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแอปฯ TikTok ก็ไดรับความนิยมในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นในเดือนพฤศจิกายน TikTok กลายเป็นแอปฯ ฟรีอันดับหนึ่งใน App Store ของสหรัฐอเมริกา แถมยังมีผู้ใช้ถึงประมาณ 40 ล้านคนในประเทศอีกด้วย และเมื่อปีที่แล้วมีศิลปินชื่อดังอย่าง Jimmy Fallon ก็ได้ลงชื่อเข้าใช้แอปฯ นี้เช่นกัน
ความจริงแล้วผู้ใช้ TikTok ที่อยู่ในประเทศอินเดียบางรายยังสามารถใช้แอปฯ ได้อยู่ แต่บางรายก็ไม่สามารถดาวน์โหลดจาก Google Play และ App Store ได้อีกต่อไป แต่การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนจะทำให้หลาย ๆ คนหมดกังวลเรื่องเกี่ยวกับการที่เด็ก ๆ จะเข้าถึงเรื่องลามกและเรื่องทางเศได้ง่ายขึ้น
It isn't. We need to go to the SC to protect safe harbor https://t.co/lvsg9CNiXj
— Nikhil Pahwa (@nixxin) April 17, 2019
Apar Gupta ทนายความของศาลฎีกาอินเดียและผู้อำนวยการมูลนิธิ Internet Freedom Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ในนิวเดลี ทำหน้าที่ปกป้องเสรีภาพออนไลน์ กล่าวเอาไว้ว่า “แอปพลิเคชันที่ใช้งานโดยเด็กและผู้ใหญ่อาจต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานขอแอปฯ นั้น ๆ รวมถึงกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องนโยบายของแต่ละแอปพลิเคชั่นอยู่แล้ว”
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ TikTok ประสบปัญหาด้านกฎระเบียบ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา FTC (The Federal Trade Commission) ก็ได้ออกมาฟ้องร้อง TikTok ถึงเรื่องเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวจากเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปีอย่างผิดกฎหมาย เช่น ชื่อ ที่อยู่ อีเมล และแหล่งที่พักอาศัย ด้วยการเรียกร้องค่าปรับถึง 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,144 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก : BuzzFeedNews
ขอบคุณคลิปวิดีโอจาก : YouTube