ถึงช่วง “วันแม่” นอกจากภาพความรักระหว่างแม่กับลูกแล้ว ภาพหนึ่งที่มักปรากฎให้เห็นประจำ คือภาพเด็กที่ไร้ผู้ให้กำเนิด ขณะที่กิจกรรมวันแม่ของหลายโรงเรียนยังคงเป็นรูปแบบเดิม คือ นัดหมายคุณแม่ไปที่โรงเรียน เพื่อให้ลูกได้กราบแม่ แต่อาจลืมนึกถึงเด็กที่ไม่มีแม่ เราจึงได้เห็นภาพสะเทือนใจเกิดขึ้นทุก ๆ ปี
สำหรับเรื่องดังกล่าว พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะจิตแพทย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน โดยมีครอบครัวเข้าไปมีส่วนร่วมยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียน แต่บางกิจกรรมที่มีความอ่อนไหวกับเด็กบางกลุ่ม โรงเรียนต้องระมัดระวัง เช่น การจัดกิจกรรมวันแม่ ที่เป้าหมายการจัดงาน คือให้เด็กทุกคนได้แสดงความรู้สึกที่มีต่อแม่ ซึ่งหากเน้นที่เรื่องความรู้สึกดังกล่าว แม่จะอยู่กับเด็กหรือไม่ได้อยู่ด้วย เด็กทุกคนจะสามารถร่วมกิจกรรมได้ทั้งหมด แต่ถ้าไปมุ่งเน้นจัดกิจกรรมที่ต้องแสดงออกด้วยการสัมผัส ก็จะกระทบกับเด็กที่ไม่ได้อยู่กับแม่
“ยกตัวอย่าง สมัยก่อนจะให้เด็กเขียนบทความแสดงความรู้สึกแล้ว นำกลับไปให้แม่หรือผู้ปกครอง ให้ครอบครัวที่บ้าน ซึ่งก็ลดปัญหาไปได้ เพราะเด็กทุกคนมีแม่อยู่แล้ว แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม แต่เขายังสามารถเก็บความรู้สึกที่มีอยู่ร่วมกันได้ เรื่องนี้โรงเรียนต้องมีความเข้าใจว่า เด็กที่สูญเสียแม่เองยังมีความอ่อนไหวอยู่ ก็ต้องได้รับการดูแลด้วย หากถามหมอว่า ควรจัดหรือไม่ควรจัด หมอตอบไม่ได้ เป็นเรื่องที่โรงเรียนจะ ต้องพิจารณา หากจะจัดก็ต้องมีระบบการดูแลเด็กกลุ่มที่ไม่มีแม่ให้ดี เป็นสิ่งที่แต่ละโรงเรียนต้องไปพิจารณาถึงความพอเหมาะสำหรับนักเรียนของตัวเอง” พญ.พรรณพิมลกล่าว
ได้แต่หวังว่า “วันแม่” ปีหน้า จะไม่มีภาพเรียกน้ำตาปรากฎให้เห็น เช่นปีที่ผ่าน ๆ มา