“ทำไมวันนี้ถึงมีแต่เรื่องแย่ ๆ นะ ทำไมไม่เห็นมีเรื่องโชคดีกับเค้าบ้างเลย” หลายคนคงเคยคิดแบบนี้ใช่ไหมคะ เราอาจจะเคยเจอคนโชคดีที่ทำอะไร หยิบจับอะไรก็ดีไปหมด ไม่เว้นแต่การทำเรื่องง่าย ๆ แต่เจ้าความโชคดีเนี่ยทำไมบางคนถึงได้มีตลอด แต่เรากลับไม่มีเลย
คุณคิดว่าความโชคดีเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นผลจากความคิดและการกระทำของคนเราคะ สำหรับเรื่องนี้ได้มีนักจิตวิทยาออกมาเปิดเผยถึงปัจจัยที่จะทำให้บุคคลโชคดี และบอกเคล็ดลับที่ทำให้โชคดีขึ้น โดยมีคำอธิบายไว้ว่า เรื่องโชคดีกับเรื่องโชคร้ายเนี่ยเป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น สาเหตุที่เขากล้าพูดแบบนี้เพราะเขาได้ทำการศึกษาบทบาทและผลของ “โชคชะตา” ที่ไว้ต่อชีวิตคนเรากับมือ
โดย ริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยา เรียกสิ่งนี้ว่า “การสืบค้นทางวิทยาศาสตร์” ที่ศึกษาถึงความแตกต่างระหว่างคนที่บอกว่าตัวเองโชคดีและโชคร้าย และผลลัพธ์ก็ออกมาว่า ความโชคดีเนี่ยไม่ใช่ความบังเอิญหรือความสามารถพิเศษแต่อย่างใด แต่แท้จริงแล้วเป็นผลที่เกิดมาจากวิธีคิดและการกระทำของเราต่างหาก และนี่คือนิสัยและการกระทำทั้ง 4 อย่างของคนที่เราเรียกว่าคนโชคดีเขาทำกัน
1.คว้าโอกาสใหม่ให้ถูกเวลา
คนที่เรียกตัวเองว่าโชคดีนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่เลือกจะหาโอกาสใหม่และคว้าเอาไว้ได้ถูกที่ถูกเวลา ยิ่งถ้าโอกาสดีกว่าเดิมเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำถ้าเกิดพวกเขาจะเลือก ในทางตรงกันข้ามนักจิตวิทยาบอกว่า คนโชคร้ายนั้นเป็นเพราะยึดติดกับที่เดิม แม้จะมีโอกาสผ่านเข้ามาก็ยังไม่เลือกคว้าไว้
2.ทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง
เพราะการทำตามสัญชาตญาณของตัวเองนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับโอกาสใหม่สูง และคนที่โชคดีมักไม่กลัวที่จะทำถ้าหากคิดว่ามัน “ใช่” สำหรับตัวเอง แต่กลับกันคนโชคร้ายมักจะคิดเยอะ คิดมาก วิเคราะห์นานเกินไปจึงเป็นผลเสียและไม่เกิดประโยชน์อะไรกับตัวเอง
3.คาดหวังว่าตัวเองจะต้องสำเร็จ
คนที่มองโลกในแง่ดีส่วนใหญ่จะเป็นคนโชคดี เพราะพวกเขาคิดว่างานแต่ละชิ้นนั้นจะประสบความสำเร็จถ้าเขาคาดหวังกับมัน แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกครั้งที่คาดหวัง แต่การมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้มีกำลังใจในการสู้ต่อถ้าเกิดเจอช่วงเวลาลำบาก แต่คนโชคร้ายจะชอบมองโลกในแง่ลบ นักจิตวิทยาจึงบอกว่าผลลัพธ์ของการเป็นเช่นนี้จะทำให้หลีกเลี่ยงการคาดหวังและไม่มีความสุขต่อตัวเอง
4.บอกตัวเองให้มองโลกในแง่บวก
ปัจจัยสำคัญที่สุดในชีวิตก็คือการมองโลกในแง่ดี ถึงแม้จะมีสิ่งร้ายเข้ามาบ้างก็ต้องดึงตัวเองกลับมาให้ได้ นี่คือสิ่งที่คนโชคดีส่วนใหญ่คิด เพราะการเรียนรู้จากสถานการณ์พวกนั้นและก้าวต่อไป ยังไงก็ต้องโชคดี แต่คนที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายมักจะปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยเหล่านั้นมาทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ และย้ำกับตัวเองว่ายังไงก็ไม่มีประโยชน์ อนาคตจะต้องมืดมนแน่นอน
นักจิตวิทยายังบอกอีกว่า ถ้าใครที่ยังมีความหวังว่าตัวเองอยากจะโชคดีอย่างคนอื่นบ้าง ให้ลองจดบันทึกถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราในแต่ละวัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม จะช่วยทำให้ความคิดลบลดลง และโฟกัสที่เรื่องดี ๆ มากกว่า ถึงแม้บางเหตุการณ์จะอยู่นอกเหนือการควบคุมของตัวเอง แต่การจดบันทึกอาจจะช่วยเยียวยาทัศนคติลบให้แข็งแกร่งขึ้นได้ อาจจะไม่ได้ผลในทันที แต่ถ้าทำเรื่อย ๆ ก็จะสามารถเห็นถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองแน่นอน
เห็นไหมคะ ว่าการสร้างทัศนคติลบต่อตัวเองมากแค่ไหนยิ่งส่งผลว่าตัวเองเป็นคนโชคร้ายอย่างที่คิดจริง ๆ แต่ถ้าเราปรับตัวและเปลี่ยนความคิดให้ดีขึ้น ยังไงสักวันก็ต้องเป็นวันของเราแน่นอนค่ะ!
ที่มา bbc
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
จริงหรือไม่ การเลื่อนตั้งปลุก ทำให้เสียสุขภาพ?
จริงหรือไม่ ยิ่งมืดยิ่งเย็นยิ่งรับมือยากกับ ความเครียด
จริงหรือไม่ นอนน้อย กว่า6ชม. ร่างกายขาดน้ำ
5 วิธีเปลี่ยน Self-Talk ทำได้ง่ายกว่าที่คิด
5 ความคิด …ถ้าทำแล้วคุณจะไม่มีความสุข