วินาทีนี้เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศกำลังเป็น “โรคติดถ้ำหลวง” เพราะเปิดทีวีช่องไหนเป็นต้องเจอข่าวเกาะติดภารกิจช่วยหมูป่าออกมาจากถ้ำ สื่อทุกช่องต่างให้ความสำคัญ รายงานข่าวกันนาทีต่อนาที ไม่แค่ในจอทีวีเท่านั้นที่จะเห็นข่าวเรื่องถ้ำหลวง ในโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือวงสนทนาทุกพื้นที่ในประเทศไทย ต่างพุ่งเป้าไปที่ถ้ำหลวง
แม้เจ้าหน้าที่จะช่วยหมูป่า 8 คนจาก 13 คนออกมาจากถ้ำหลวงนางนอนได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าชาวไทยต่างเป็นโรคติดถ้ำหาทางออกไม่เจอเสียเอง
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศาสนติ์ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงกระแสถ้ำหลวงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ว่า เข้าใจได้ว่าทุกคนต่างเอาใจช่วย และต้องการให้นำตัวเด็ก ๆ 12 คน พร้อมทั้งโค้ชออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ดีของชาวไทยทุกคน แต่หลายคนติดตามข่าวด้วยความรู้สึกลุ้น ความรู้สึกกังวล ความรู้สึกเครียด และคิดไปว่าการเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่อยู่ในถ้ำต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ตามที่ตัวเองคิด และแสดงความเห็นออกไปตามความรู้สึก ทำให้เกิดกระแสข่าวบิดเบือนจากความเป็นจริงมากมาย ทั้งในโซเชียลหรือในพื้นที่ปฏิบัติงาน ดังนั้น ในการติดตามข่าวต้องติดตามด้วยความเข้าใจ และใช้สมองส่วนคิดในการรับข้อมูล คือ เสพข่าวอย่างมีเหตุมีผลและมีวิจารณญาน และเคารพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกฝ่ายต่างมีหลักปฏิบัติเพื่อสวัสดิภาพของผู้ประสบภัยอยู่แล้ว การติดตามข่าวสาร ไม่จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา เพราะการเสพข่าวมากเกินไปทำให้เกิดผลเสียทั้งด้านสุขภาพจิตและด้านอื่นๆ ตามมา
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ควรลดการเสนอข่าวๆ ถอยออกจากสถานการณ์ถ้ำหลวงอย่างนุ่มนวล เพื่อนำเสนอข่าวสารอื่นๆ และให้เวลาทีมหมูป่าได้ฟื้นฟูตัวเอง
4 เสียเมื่อเป็นโรคติดถ้ำหลวง
- เสียเวลา ใช้เวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันในการติดตามข่าวสาร บางรายพยายามหาข่าวจากทุกสื่อทุกช่องทางแบบเกาะติดลุ้นนาทีต่อนาทีเพื่อติดตามเรื่องถ้ำหลวง
- เสียอารมณ์ รู้สึกมีส่วนร่วมกับข่าวสารที่ได้รับ จนเป็นความวิตกกังวล ความเครียด เกิดความคาดหวังตามที่ตนเองคาดการณ์
- เสียสุขภาพ จากการใช้ร่างกายหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เพื่อติดตามข่าวถ้ำหลวงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
- เสียงานเสียการ ให้ความสำคัญกับเรื่องถ้ำหลวงมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของตนเอง
แนะทางออกจากถ้ำ
- เลือกเสพข่าวจากสื่อที่เชื่อถือได้ 1-2 ช่องทาง ไม่ต้องติดตามข่าวหลายช่องทาง
- ลดการติดตามข่าวจากตลอดเวลา เป็น 3-4 รอบต่อวัน
- ติดตามข่าวอย่างมีเหตุผล เคารพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
- ไม่แสดงความคิดเห็นเชิงการคาดการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดการบิดเบือนข่าว