ปิดฉากตำนานเจ้าพ่อเพลย์บอยเมื่อ “ฮิวจ์ เฮฟเนอร์” ผู้ก่อตั้งนิตยสารสำหรับผู้ชาย “เพลย์บอย” เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชราในบ้านพักเพลย์บอยแมนชั่นที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความเศร้าสลดของครอบครัว สิริอายุ 91 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารเพลย์บอย เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคชราในวัย 91 ปี ที่บ้านพักเพลย์บอยแมนชั่น ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางวงล้อมของบรรดาครอบครัวและผู้เป็นที่รัก ส่วนพิธีศพยังไม่เป็นที่เปิดเผย
ด้าน คูเปอร์ เฮฟเนอร์ (Cooper Hefner) ทายาทของเขาซึ่งขณะนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของเพลย์บอย ก็ได้ออกแถลงการณ์ถึงการจากไปของผู้เป็นพ่อว่า พ่อของเขามีชีวิตที่ยอดเยี่ยม และเป็นผู้มีอิทธิพลในฐานะผู้บุกเบิกด้านสื่อและวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นผู้นำเบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางสังคมและวัฒนธรรมที่สำคัญด้านสิทธิพลเมืองและเสรีภาพทางเพศ เขาเป็นผู้กำหนดแนวทางหลักของแบรนด์ของนิตยสารซึ่งถือเป็นจุดเด่นและสามารถอยู่มาอย่างยาวนาน
สำหรับประวัติของ ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2469 ในครอบครัวอนุรักษ์นิยม ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เคยวาดการ์ตูนอยู่ในหนังสือพิมพ์ของกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะปลดประจำการเมื่อปี 2489 จากนั้นได้ยืมเงินแม่มาลงทุนทำนิตยสารสำหรับผู้ชาย “เพลย์บอย” ด้วยเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 33,000 บาท) เมื่อปี 2496 ซึ่งฉบับปฐมฤกษ์มียอดขายมากถึง 5 หมื่นเล่ม ก่อนที่ธุรกิจนี้จะรุ่งเรืองสุด ๆ จนมีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อปี 2514 ได้ซื้อคฤหาสน์เพลย์บอยในราคา 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นที่สังสรรค์ของเหล่าดาราและเซเลปชื่อดัง รวมทั้งยังเป็นกระบอกเสียงเพื่อเพศที่สามอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคู่แข่งที่ผลิตสื่ออนาจารอื่น ๆ รวมถึงนิตยสาร Penthouse ในช่วงปี 2513 อีกทั้งสื่อออนไลน์ ทำให้ทุกคนสามารถค้นหาภาพวาบหวิวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้ยอดขายตกลงไปพอสมควรเหลือเพียงร้อยละ 11 แต่ด้วยวิสัยทัศน์เรื่องการทำธุรกิจประเภทอื่น ๆ ทำให้ชื่อของ “เพลย์บอย” ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับการเสียชีวิตของ ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ทำให้ทวิตเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าว มีแฮชแท็กยอดนิยมอย่าง #RIPHef ที่หลาย ๆ คน ต่างยกย่องและกล่าวถึงเจ้าพ่อนิตยสารเพลย์บอยอย่างล้นหลามว่าเป็นผู้ชายที่ทรงอิทธิพล เหมือนคำกล่าวของเขาว่า
“Life’s too short to be living someone else’s dream” ชีวิตของเรา ฝันของเรา เรารับผิดชอบเอง
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก Instagram @hughhefner , Twitter @_Relsz @BDG0716 @HeyLaurenSummer