เนื่องจากวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาเป็น “วันแม่” เราจึงขอเก็บตกเรื่องราวความรู้สึกดี ๆ ของคุณแม่และคุณลูกมาบอกเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกันอีกสักหน่อย ในแคมเปญ “เรื่องแม่แชร์กับไบรท์” รู้สึกอย่างไรกับแม่ มาแชร์ร่วมกันนะคะ
อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ ผู้ประกาศข่าว
จดหมายของแม่ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้วผมได้การบ้านจากActing Classให้คนที่เรารักเขียนจดหมายบอกความในใจถึงเรา ไม่คิดเลยว่าข้อความในจดหมายที่แม่เขียนให้ผมในวันนั้น จะกลายเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับผมจนถึงตอนนี้ครับ
รวิสรา กัญจนกาญจน์ ธุรกิจส่วนตัว
ประทับใจนาฬิกาที่แม่ซื้อให้ตอนม.ปลาย แต่ตอนนั้นงอแงมาก เพราะเป็นนาฬิกาที่ไมชอบสี ไม่ชอบแบบ อยากได้สวย ๆ แต่เรือนนี้่มันเป็นนาฬิกาที่ไว้ใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ จนตอนนี้นาฬิกาเรือนนั้นผ่านมา 7 ปีแล้ว วันไหนไม่มีจะหงุดหงิดมาก ถึงตอนนี้ต่อให้มีนาฬิกาที่สวยและแพงกว่า ก็มาแทนเรือนเดิมที่แม่ซื้อให้ไม่ได้
ภานุพงศ์ โรจนเสรี ช่างภาพ
ถ้ามาถึงตอนนี้ ก็คงเป็นกล้องตัวแรก แม่กับพ่อซื้อให้ตอนเรียนปี 1 กว่า ๆ เพราะแม่บอกว่า บ้านเรายังไม่มีกล้อง ซื้อไปเลย อย่างน้อยก็ได้เรียน ได้ใช้ถ่ายรูปคนในครอบครัวด้วย ถึงแม้ตอนนั้นจะได้เรียนแค่วิชาที่ต้องใช้กล้องแค่เดียวก็เถอะ ฮ่าๆ แต่หลังจากนั้นเราก็มีกล้องเป็นของตัวเอง เพราะเราได้เป็นช่างภาพ ลองนึกย้อนกลับไปถ้าไม่มีกล้องตัวนั้น ก็คงไม่มีเราในวันนี้
ดวงพร เจียรสุธรรมพร Content Creator
ของขวัญจากแม่ที่ประทับใจที่สุด คือ รถคันแรกที่ดาวน์ให้หลังเรียนจบ เพราะรู้สึกว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่แม่มอบให้เรา จริง ๆ แล้วแม่ไม่ได้ให้แค่รถเท่านั้น แต่แม่ยังสอนให้เรารู้จักมีความรับผิดชอบอีกด้วย เพราะเราต้องผ่อนรถเองทุกงวด รู้สึกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นแรงกระตุ้นในการทำงานของเราได้
จันทร์แรม สัมพันธ์วิวัฒน์ สื่อมวลชน
“แทบจะไม่เคยมีของขวัญอะไรที่แม่ให้เป็นสิ่งของนอกกาย แต่แม่ให้โดยที่แม่ไม่รู้หรอกว่าให้มาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงดู เพราะไม่เคยให้อดมื้อกินมื้อ แม้แม่ไม่ได้ร่ำรวย แต่แม่สามารถหาอาหาร เสื้อผ้ามาให้ได้ จนกระทั่งโตพอจำความได้ ถึงรู้ว่าแม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาเพื่อเลี้ยงดูเราและทุกคนในครอบครัว ของขวัญที่แม่ให้และไม่เคยลืมเลยคือความแข็งแกร่ง ความอดทน ความมีน้ำใจต่อผู้คนรอบตัว และที่สำคัญที่สุดคือความกตัญญูต่อคนที่เคยช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเรา”