ปัจจุบันสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชากรในประเทศที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปราวร้อยละ 12 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่เกือบ 67 ล้านคน จำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง และคาดว่าปีต่อ ๆ ไป ประเทศไทยอาจจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ คือมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงราวร้อยละ 28 ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 20 ล้านคน ส่งผลให้ครอบครัวแบกรับภาระในการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้สูงอายุเองเมื่อมีอายุยืนยาวขึ้น ก็ยิ่งเผชิญกับปัญหาขาดแคลนรายได้ ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ รวมไปถึงความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยด้วยปัญหาด้านสุขภาพ
จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยได้เริ่มก่อตั้งให้มี ‘โรงเรียนผู้สูงอายุ’ ขึ้น เป็นรูปแบบหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การจัดการศึกษา การพัฒนาทักษะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุจะเป็นเรื่องที่ผู้สูงอายุสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะชีวิตที่จำเป็น โดยวิทยากรจิตอาสาหรือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ผู้สูงอายุจะได้แสดงศักยภาพ โดยการถ่ายทอดภูมิความรู้ ประสบการณ์ที่สั่งสมแก่บุคคลอื่น เพื่อสืบสานภูมิปัญญาให้คงคุณค่าคู่กับชุมชน
โรงเรียนผู้สูงอายุหลายแห่งตั้งขึ้นโดยใช้อาคารเรียนเก่าของโรงเรียนที่เลิกกิจการหรือตั้งอยู่ในชมรมผู้สูงอายุ ภายในวัด บางแห่งใช้บ้านของผู้ริเริ่มก่อตั้งเป็นสถานที่ดำเนินการการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุในระยะแรก อาจเป็นเพียงการรวมกลุ่มพบปะพูดคุยกัน แล้วจึงค่อยๆ มีรูปแบบชัดเจนขึ้น มีกิจกรรมที่หลากหลายตามความต้องการของผู้สูงอายุ หรืออาจเป็นการขยายกิจกรรมจากที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น ศูนย์บริการทางสังคมแบบมีส่วนร่วม (ศาลาสร้างสุข) ศูนย์สามวัย ธนาคารความดี เป็นต้น โรงเรียนผู้สูงอายุสามารถมีรูปแบบและกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทของพื้นที่ ความต้องการของผู้สูงอายุ การจัดกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุ จะกำหนดตารางกิจกรรมในแต่ละสัปดาห์ไว้ชัดเจน ระยะเวลาเปิดเรียนอาจเป็นตลอดปีหรือเปิดเป็นช่วงเวลาตามหลักสูตรที่จัดอบรม ส่วนใหญ่จะจัดกิจกรรมสัปดาห์ละ 1 วัน
เราได้มีโอกาสได้ไปที่โรงเรียนผู้สูงอายุ ต.สุเทพ จ.เชียงใหม่ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในวันนั้นทางทางเทศบาลตำบลสุเทพได้จัดพิธีมอบ ‘ปริญญาชีวิต บัณฑิตสูงวัย’ ให้กับนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลสุเทพ รุ่นที่ 1 พอดี บรรยากาศในวันนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มของกลุ่มผู้สูงอายุที่จบการศึกษา รวมถึงความปิติของลูกหลานที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของตัวเอง อีกทั้งผู้สูงวัยหลายคนยังได้บอกว่า โรงเรียนผู้สูงอายุแบบนี้นี้มีประโยชน์มากเพราะว่าได้เจอเพื่อน ๆ มากมาย ได้ทำกิจกรรมด้วยยิ่งมีความสุข และแม้ว่าตนจะจบหลักสูตรแล้วแต่ก็จะนำความรู้ที่ได้เรียนมาทั้งหมดมาปฏิบัติใช้กับตัวเอง และจะนำไปถ่ายทอดให้กับผู้อื่นต่อไปอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ(พม.)