ในช่วงที่ฟ้าฝนแปรปรวนพายุเข้าแบบนี้ ถ้าหากเราได้หลบฝนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเราก็อุ่นใจแล้ว แต่ถ้าหากเราอยู่ข้างนอกในช่วงที่ฝนฟ้าคะนองล่ะ เราจะทำอย่างไรดี หากเกิดฝนฟ้าอากาศเป็นแบบนี้สิ่งที่ต้องตามมาอย่างแน่นอนคือ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันจะผ่าลงมาเมื่อไหร่ เราจะรู้ได้อย่างไรหากมันกำลังจะผ่าเรา วันนี้เราจะนำความรู้มาฝากกัน
ในช่วงฝนฟ้าคะนองเมื่อเรารู้สึกว่า ขนลุก หรือ เส้นผมตั้งขึ้น ประมาณ 10-15 วินาที แสดงว่าเรากำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าขนและเส้นผมของคุณกำลังถูกกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำโดยประจุไฟฟ้ากำลังสะสมอยู่บนตัวของเราและฟ้ากำลังจะผ่าลงตรงจุดที่เรายืนอยู่ ปรากฏการณ์ฟ้าผ่านี้มีสาเหตุจากความแปรปรวนของอากาศที่อยู่ระหว่างชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาลออกมา
ฟ้าผ่าแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น ฟ้าผ่าภายในก้อนเมฆ จะทำให้เกิดฟ้าแลบ ส่วนฟ้าผ่าที่เป็นอันตรายต่อสิ่ง บนพื้นโลก คือ ฟ้าผ่าจากฐานเมฆลงสู่พื้น และฟ้าผ่าจากยอดเมฆลงสู่พื้น ซึ่งฟ้าผ่าจากยอดเมฆนั้นสามารถผ่าได้ไกลถึง 40 กม.เลยทีเดียว
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าฟ้ากำลังจะผ่า กฎ 30/30 สัญญาณเตือนฟ้าผ่า สามารถบอกได้
สัญญาณ 30/30 เป็นสัญญาณเตือนฟ้าผ่าที่สามารถเตือนล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดฟ้าผ่า โดยที่เลข 30 ตัวแรก หมายถึง หากเห็นฟ้าแลบ แล้วตามด้วยเสียงฟ้าร้องในเวลาไม่เกิน 30 วินาที แสดงว่า เมฆฝนฟ้าคะนองอยู่ใกล้ตัวเรามากเพียงพอที่จะเป็นอันตรายได้ ฉะนั้น เราควรหาหลบในที่ปลอดภัยทันที ส่วนเลข 30 ตัวหลัง หมายถึง หลังจากพายุฝนฟ้าคะนองหยุดลงแล้ว เราควรจะต้องรออยู่ในที่หลบภัยอีกอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้มั่นใจว่าเมฆฝนฟ้าคะนองสลายตัวไปแล้ว เพราะถึงแม้ว่าเราจะอยู่ห่างจากเมฆฝนฟ้าคะนองในระยะ 30 กิโลเมตร หรือช่วงท้ายของเมฆฝนฟ้าคะนองแล้วก็ตาม อาจจะเกิดฟ้าผ่าตามมาได้ ฉะนั้น ทางที่ดีเราควรหลบอยู่ในที่ปลอดภัยหลังจากพายุฝนฟ้าคะนองหยุดลงแล้ว 30 นาที
ช่วงการเกิดฝนฟ้าคะนองถ้าหากเราอยู่ในที่ร่มและปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ที่ที่สุด แต่ถ้าหากตอนนั้นเราอยู่ข้างนอกหรือกลางแจ้ง เราควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ถอดวัตถุโลหะออกจากร่างกาย และห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ส่วนวิธีการที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกฟ้าผ่า เราสามารถทำได้แบบง่าย ๆ คือ พยายามขดตัวให้เล็กที่สุด อย่านอนราบไปกับพื้น โดยนั่งย่อให้ต่ำกว่าสิ่งรอบข้าง ยืนเขย่งเท้าเพื่อลดพื้นที่ที่ร่างกายจะสัมผัสถึงพื้นดิน เพื่อลดความเสี่ยงที่ฟ้าผ่าจะไหลมาตามพื้นนั่นเอง
ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนมาแล้วเกิดขนลุกขึ้นมา อันนี้เราก็ไม่สามารถช่วยได้แล้วจ้า เราขอหนีก่อนล่ะนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก KumwellKML