หลายคนที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ คงจะพอรู้จักและคุ้นเคยกับระบบ สระว่ายน้ำ กันพอสมควร แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เกิดข้อสงสัยว่าสระว่ายน้ำระบบเกลือ กับระบบคลอรีนนั้นแตกต่างกันอย่างไร ? และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ? มาติดตามกันค่ะ
เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักกับทั้ง 2 ระบบนี้กันก่อน สำหรับสระว่ายน้ำคลอรีนนั้น เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคที่มีราคาถูก และค่อนข้างเป็นที่นิยมใช้กัน ส่วนมากจะใช้คลอรีน 90% เพราะเป็นสัดส่วนที่มีความเข้มข้นสูง แต่ก็มีค่าความเป็นกรดสูงเช่นกัน ส่วนมากสระว่ายน้ำจะเติมคลอรีนในช่วงเวลากลางคืน เพราะด้วยคุณสมบัติที่ค่อนข้างไวต่อแสงแดด และจะสลายตัวเมื่อรับแสงที่จ้าจนเกินไป
และสำหรับสระว่ายน้ำระบบเกลือ คือ จะใช้เกลือธรรมชาติ หรือโซเดียมคลอไรด์ ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งจะมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค และแบคทีเรียเช่นเดียวกับคลอรีน โดยใช้กระบวนการ salt chlorinator เพื่อแยกคลอไรด์ออกมาใช้งาน จนเหลือคลอรีนธรรมชาติ (Natural Chlorine) เมื่อทำการฆ่าเชื้อเสร็จก็จะกับไปเป็นโซเดียมคลอไรด์เหมือนเดิม และวนแบบนี้ไม่รู้จบ หากอยากรู้ว่าความเค็มของมัน ก็คงเปรียบเทียบได้กับครึ่งหนึ่งของน้ำตาคนเรานั่นเอง
กลับมาต่อกันที่เรื่องประโยชน์ของระบบน้ำทั้ง 2 นี้ อย่างแรกเลยสำหรับคลอรีนแล้วนั้น จะเน้นที่มีราคาถูก แต่จะไม่เหมาะกับคนที่แพ้คลอรีน หรือเป็นโรคภูมิแพ้ และหากสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ผิวหนังของเราระคายเคือง, ผมแห้ง, แสบตา ในบางรายอาจถึงขั้นฟันผุกร่อนได้เลยนะคะ จะเห็นได้ว่าสระว่ายน้ำคลอรีนนั้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างมากค่ะ
ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือนั้น ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มแรกมากกว่าคลอรีน แต่ในระยะยาวแล้วการดูแลรักษาจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เนื่องจากไม่ต้องคอยเติมเกลือบ่อย และยังปลอดภัยต่อคนว่ายอีกด้วย ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองตา (สามารถลืมตาในน้ำได้), ไม่ทำให้ผิวแห้ง, ไม่มีอาการคัน และไม่ทำให้ผมเสีย
เปรียบเทียบกันให้เห็นขนาดนี้แล้ว ไปว่ายน้ำครั้งหน้าอย่าลืมเลือกสระระบบเกลือเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองนะคะ