มี(จริง)แล้วจ้า! ‘รถไฟความเร็วสูง’ ขบวนแรกของแอฟริกา หลังจากรถไฟมีรถไฟ Gautrain ของประเทศแอฟริกาใต้เมื่อปี 2555 (ที่ถือว่าเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดแล้วในแอฟริกา) ล่าสุด! เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 พ.ย. 2561) กษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 6 ของโมร็อกโก และ Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็ได้ประกาศเปิดตัว รถไฟความเร็วสูงขบวนแรกในแอฟริกา ที่กำลังจะแล่นแวบวาบ (ก็ความเร็วสูงไงคะ) ไปตามชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของประเทศโมร็อกโก
รถไฟความเร็วสูงดังกล่าวเป็นแบบ TGVs (double-decker) เหมือนของประเทศฝรั่งเศส ผลิตโดยบริษัท Alstom ของฝรั่งเศส ได้รับการทดสอบการวิ่งก่อนจะเปิดตัวเส้นทางใหม่ที่เชื่อมระหว่างเมืองคาซาบลังกา (Casablanca) เมืองหลวงของโมร็อกโก และเมืองแทนเจียร์ (Tangier) โดยสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างทั้งสองเมืองลงได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง (เหลือเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น) และนี่ถือเป็นความเร็วในระดับสองเท่าของรถไฟ Gautrain ในประเทศแอฟริกาใต้ (ซึ่งไม่จัดว่าเป็นรถไฟความเร็วสูง)
โครงการมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญนี้ได้รับการพัฒนามานานนับทศวรรษโดยรัฐบาลโมร็อกโก ฝรั่งเศส ซาอุดิอาระเบีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 และรัฐบาลโมร็อกโกคาดว่ารถไฟสายนี้จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งและศักดิ์ศรีของประเทศ โดยมีการรายงานจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกาใน ‘Economic Outlook 2016’ ของโมร็อกโกว่า รถไฟความเร็วสูงอยู่ในแผนงบประมาณการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของโมร็อกโก ที่รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และท่าเรือสำคัญหลายแห่ง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ
นอกจากนี้ Zouhair Ait Benhamou นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของ Financia Business School ในประเทศฝรั่งเศส วิเคราะห์ว่า รถไฟสายใหม่นี้ยังมีความเสี่ยงด้านผลตอบแทน เนื่องจากธุรกิจของการรถไฟ ONCF ของโมร็อกโก มีการจำลองแบบมาจากฝรั่งเศส ซึ่งธุรกิจรถไฟได้รับการอุดหนุนอย่างมาก ดังนั้น หากจำนวนผู้โดยสารของโมร็อกโกไม่เกิดขึ้นภายใน 2-3ปี (เป้าของรัฐบาลคือ 6 ล้านคนต่อปี) รัฐบาลจะต้องให้เงินสนับสนุนพร้อมกับส่งเสริมกิจกรรมที่กระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ได้มีเพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น แต่ยังมีฝ่ายคัดค้านด้วย โดย Omar Balafraj สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหพันธ์พรรคประชาธิปไตย และผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหว ได้ผลักดันให้เกิดแคมเปญ ‘Stop TGV’ ซึ่งเห็นว่าการลงทุนมหาศาลนี้อาจมีประโยชน์มากขึ้นหากนำไปแก้ไขเรื่องการให้บริการสาธารณะที่ล้มเหลวของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของคนในประเทศ
แต่ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้าน และการชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดต่างๆ จากนักวิเคราะห์มากเพียงใด โครงการนี้ก็ก้าวไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดลงได้แล้วค่ะ อีกไม่นานรถไฟความเร็วสูงสายแทนเจียร์-คาซาบลังกา ก็จะเปิดให้บริการผู้โดยสารเป็นครั้งแรกแล้ว
ที่ไหนๆ ก็มีกันหมดแล้ว เมืองไทยจะมีบ้างมั้ยน้าาาาาาา … น่าคิดเนาะ
ที่มา: www.edition.cnn.com
Infographic: www.trendrr.net
Photo via: www.oncf.ma