คุณคิดว่า ‘นักโทษ’ กลับใจได้ไหม? หลายคนก็คงคิดว่าคนทำผิดเหล่านี้ไม่สมควรออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีก อย่างไรก็ตามในเมื่อคนในโลกเราเต็มไปด้วยคนดีคนเลวปะปนกันฉันใด ใน ‘คุก’ ก็เป็นแบบนั้น ที่มีคนหลากหลายประเภทรวมอยู่ด้วยกัน เช่นเขาคนนี้ ‘หรั่ง – อัครินทร์ ปูรี’ อดีตนักโทษที่เคยติดสถานพินิจและเรือนจำ รวมทั้งหมด 9 ครั้ง ภายในเวลา 15 ปี เคยเป็นนักโทษชั้นเลวของเรือนจำ จนเจ้าหน้าที่และเพื่อนนักโทษด้วยกันมองว่าไม่น่าจะกลับตัวได้ แต่ปัจจุบันเขาพ้นโทษมาแล้ว และได้ประกอบอาชีพเป็นช่างทำกีตาร์แฮนด์เมด รวมถึงเป็นอาสาสมัครเข้าไปเป็นวิทยากรพูดสร้างแรงบันดาลใจช่วยเหลือนักโทษหลังพ้นโทษด้วย
เมื่ออายุได้ 15 ปี หรั่่งถูกจับครั้งแรก! และได้เข้าออกคุกมาตลอด เขาบอกถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องเข้าคุกเป็นว่าเล่นว่า “ผมเป็นคนเกเร เมื่อได้เข้าไปอยู่ในคุกผมก็ต้องเรียนรู้ชีวิตในคุกนั้นเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เขาให้ทำอะไรผมก็ต้องทำดังนั้นจึงทำให้เรากลายเป็นนักโทษชั้นเลว ตอนนั้นผมไม่ได้นึกถึงอะไรเลยทั้งนั้นแม้กระทั่งหน้าของครอบครัวตัวเอง เลวมากจนเพื่อนในเรือนจำด้วยกัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ผมไม่น่ากลับเข้าสู่สังคมได้อีกแล้ว”
เขารู้สึกว่าเหมือนเดินเข้าไปในความมืดของชีวิตเรื่อย ๆ จนไม่อยากหันหลังกลับมา เพราะคิดว่าคนแบบเขาถึงแม้ว่าออกจากคุกไปคงไม่มีใครไว้ใจและหยิบยื่นโอกาสให้อีกแล้ว จนกระทั่งพี่สาวมาเยี่ยมในเรือนจำ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา
“วันที่ผมได้มีโอกาสพบกับพี่สาววันนั้น ผมตัดสินใจจะบอกเธอว่าผมคงกลับตัวไม่ได้แล้ว แต่พี่สาวผมบอกว่าให้ผมลองไปอธิษฐานกับพระเจ้า และในคืนนั้นเองผมก็ลองทำดู ตอนนั้นผมก็ได้รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจผม อาจเป็นเพราะได้อยู่กับตัวเองพร้อมกับอธิษฐานต่อพระเยซู ความผิดบาปรวมทั้งอีกหลายสิ่งอย่างเข้ามาในหัว แล้วหลังจากนั้นการใช้ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไป เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมได้มาอยู่มูลนิธิบ้านพระพรเพื่อปรับความคิด แรกเริ่มที่ได้เข้ามาผมก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีคนที่เข้าใจเราหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร? แต่แล้วที่นี่เขาสอนผมหลายอย่างจนผมค่อย ๆ เปิดใจ พวกเขาสอนผมทั้งการไหว้ มารยาท การพูดจา รวมทั้งสอนให้ผมปรับตัวในสังคม ให้ผมกล้ายอมรับความจริงและกล้าเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตให้ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้โอกาสตัวเองด้วย เมื่อเรายอมรับตัวเองได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าสังคมจะไม่ให้โอกาส”
ชีวิตหลังจากพ้นโทษ “ผมได้มีโอกาสพบกับคุณแหลม – ณรงค์ชัย อร่ามเรืองสกุล ครูสอนทำกีตาร์คนแรก จุดประสงค์ของผมตอนนั้น คือแค่อยากมีอาชีพกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างคนปกติ อีกทั้งตัวผมเองเป็นคนชอบงานด้านศิลปะ จึงตัดสินใจเริ่มทำ จากนั้นผมจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านการทำกีตาร์ เพราะกีตาร์ไม่ใช่แค่การขัดเกลาไม้จนเป็นเครื่องดนตรี มันเป็นเหมือนสิ่งที่ขัดเกลาชีวิตผมด้วย และด้วยความเชื่อและศรัทธาผมจึงตัดสินใจยึดเป็นอาชีพ จนได้เปิดร้านเป็นของตัวเองชื่อว่า ‘Be Light Guitar’ ”
การกลับเข้าไปในเรือนจำอีกครั้งในบทบาทที่เปลี่ยนไป
“ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้รับโอกาสที่ดี และขอบคุณตัวเองที่เลือกรับโอกาสที่ดีแบบนี้ ผมได้กลับเข้าไปในเรือนจำอีกครั้งกับบทบาทใหม่ในการเป็นวิทยากร ผมทราบดีและสัมผัสได้ว่านักโทษทุกคนไม่มีใครอยากจะเป็นคนไม่ดี ทุกคนล้วนแต่อยากเป็นคนใหม่ แต่ด้วยกำลังของพวกเขาเองไม่สามารถทำได้ ด้วยสภาพแวดล้อมหลายด้าน บางครั้งมันทำให้พวกเขากลับมาสู่กระบวนการแบบเดิม เพราะฉะนั้นผมจึงอยากจะกลับไปหาพวกเขาแล้วไปบอกว่า พวกเขาก็สามารถกลับตัวได้เหมือนกัน”
เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่เมื่อทำผิดพลาดไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ นอกจากเดินหน้าและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ชีวิตใหม่เป็นชีวิตที่ใครหลายคนก็อยากมี แต่สำหรับคนบางกลุ่มคงเป็นไปได้ยากที่จะคว้าชีวิตใหม่ของตัวเองมา เพียงเพราะไม่ได้รับ ‘โอกาส’ ในการพิสูจน์ตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าหากสังคมเราเปิดใจหรือให้โอกาสพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเอง เชื่อว่าเราคงได้รับคนดีกลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก สมภพเสวนา , Be Light Guitar