ออกกำลังกายแบบผิดๆ
วิ่งมาก็นาน ออกกำลังกายก็แทบทุกวัน แต่ละครั้งก็ใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่ทำไมหุ่นก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ? สาเหตุอาจเกิดเพราะความเชื่อบางอย่างของเราที่ผิดไปจากหลักความเป็นจริง จนทำให้เราออกกกำลังกายเท่าไรก็ไม่ได้ผล แล้วความเชื่อที่ผิด ๆ เหล่านั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
- ออกกำลังกายหักโหม
หลายคนอาจคิดว่าการออกกำลังกายอย่างหนักจะช่วยทำให้น้ำหนักลดลงเร็วมากขึ้น แต่ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น เพราะยิ่งทำแบบนี้เหมือนเป็นการสร้างภาระให้ร่างกายมากขึ้น โดยปกติแล้วร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า “Cortisol” ออกมาในช่วงที่เราออกกำลังกาย หากหลั่งออกมาในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี แต่ถ้าถูกหลั่งในปริมาณที่มากเกิน ฮอร์โมนตัวนี้จะเข้าไปสลายกล้ามเนื้อที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันทำให้การเผาผลาญของเราลดประสิทธิภาพลง
- คิดว่ากินอะไรก็ได้
บางคนคิดว่าเมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วจะกินอะไรก็ได้ เพราะคิดว่าเราเผาผลาญไขมันออกไปเยอะแล้ว จะเติมเข้าไปก็คงไม่เป็นอะไร แต่ความจริงแล้วเราไม่ควรกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะถ้าหากเราเผลอกินอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่มากกว่าที่เราเผาผลาญไปนั่นเท่ากับว่าการออกกำลังกายในครั้งนี้ของเราก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไบรท์แนะนำว่าถ้าเกิดรู้สึกหิว ควรเลือกกินอาหารเบา ๆ อย่าง โยเกิร์ต, นมถั่วเหลือง หรือ ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ เป็นต้น
- ยิ่งออกกำลังกายนานยิ่งดี
เวลาออกกำลังกายมักจะคิดแต่เรื่องระยะเวลา ยิ่งออกนานจะยิ่งเผาผลาญไขมันได้ดี ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่วิธีคิดที่ผิด แต่ยังมีวิธีการออกกำลังกายแบบอื่น ที่ไม่ต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ก็ได้ผลดีเช่นกันจากการศึกษาของ Laval University ในควิเบค ประเทศแคนาดา ยืนยันแล้วการออกกำลังกายแบบ High Intensity Interval Training หรือ HIIT (คือการออกกำลังกายแบบหนักมากสลับเบาเป็นช่วง ๆ) จะสามารถเห็นผลได้มากกว่า อย่างเช่นการวิ่งแบบเต็มกำลังในระยะเวลาเพียง 30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนความเร็วลงกลับสู่ระดับปานกลางเหมือนเดิม เป็นจำนวน 4 – 6 รอบ จะเผาผลาญไขมันได้มากกว่าวิ่งแบบเรื่อย ๆ ในระยะเวลา 30 – 60 นาทีนั่นเอง
- Exercise ท่าเดิมทุกวัน
การทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน ร่างกายจะสามารถเดาทางได้ ทำให้เราเห็นผลการเปลี่ยนแปลงลดน้อยลง เพราะระบบเผาผลาญจะเกิดการเรียนรู้ และคิดหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อกักเก็บไขมันอยู่กับตัวให้นานที่สุด ดังนั้นถ้าเราทำอะไรแบบเดิมตลอด การเบิร์นไขมันจะลดน้อยลง ดังนั้นเราควรหาวิธีออกกำลังกายใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่างเช่นหากเราเน้นเรื่องการคาร์ดิโอ (การออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นประมาณ 50 – 75% (หรือมากกว่า) ของอัตราการเต้นสูงสุด อย่าง การวิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน) ในหนึ่งอาทิตย์เราควรเปลี่ยนกีฬาใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในหนึ่งอาทิตย์เราอาจจะว่ายน้ำ สลับกับตีแบดมินตัน เพื่อไม่ให้ร่างกายจดจำการออกกำลังกายในรูปแบบเดิม ๆ และให้กล้ามเนื้อทุกส่วนได้ใช้งานอย่างทั่วถึง
- คิดว่าคาร์ดิโออย่างเดียวก็พอ
คนส่วนมากมักจะคิดแค่ว่าการออกกำลังกาย คือการขยับร่างกายให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะขจัดไขมันออกไปจึงเลือกคาร์ดิโอเป็นส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วร่างกายของเรานั้นมีการเผาผลาญด้วยกล้ามเนื้ออยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราควรสร้างกล้ามเนื้อให้มีจำนวนมาก เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อคงหนีไม่พ้นการเล่นเวทเทรนนิ่ง (การออกกำลังกายที่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อ เช่น วิดพื้น, ซิทอัพ) ควบคู่ไปกับคาร์ดิโอ เพราะไม่ว่าเราจะลุก เดิน นั่ง หรือวิ่ง จะทำให้ร่างกายของเรามีการเผาผลาญอยู่ตลอด
รู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามกันด้วยนะ เพื่อหุ่นสวยสุขภาพดีของเรา
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
นอนเท่าไรก็ไม่พอ อาจเสี่ยงเป็นโรคร้ายโดยไม่รู้ตัว