- โดนัลด์ ทรัมป์ คือประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45
- เขาเริ่มดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2560
- ก่อนหน้าที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เขาเคยเป็นนักธุรกิจและโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน
- ธุรกิจที่โดดเด่นมากที่สุดของทรัมป์ก็คือ การเป็นเจ้าของกิจการการประกวด Miss Universe
ผ่านไปอีก 1 ปีแล้วกับการเป็นประธานาธิบดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลา 2 ปีเป็นที่เรียบร้อย ในปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเขาจะสร้างเรื่องราวเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือเรื่องที่แย่ แต่วันนี้ ไบรท์ออนไลน์ ขอยก 10 สิ่งดี ๆ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำในปีที่ผ่านมามาให้อ่านกัน
10.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ช่วยเหลือชาวอเมริกัน 16 คน รวมถึงชาวต่างชาติอีก 3 คน รวมเป็นทั้งหมด 19 คนจากการถูกจับกุมตัวในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือบาทหลวง Andrew Brunson ซึ่งถูกจับกุมเพราะโดนกล่าวหาว่าช่วยเหลือกบฏในประเทศตุรกี แต่ด้วยการเจรจาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ทำให้บาทหลวงผู้นี้ได้รับการปล่อยตัว และถือเป็นนักโทษคนที่ 19 ที่ได้รับการปล่อยตัวจากการช่วยเหลือของ โดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ ทรัมป์ได้ให้การช่วยเหลือ อาทิ การช่วยเหลือนักโทษชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมตัวในประเทศเกาหลีเหนือ, ช่วยเหลือนักบาส UCLA 3 คน ที่ถูกทางจีนจับกุมในข้อหากล่าวหาขโมยของในร้าน เป็นต้น ซึ่งกว่าคนเหล่านี้จะได้ถูกปล่อยตัวก็ใช้เวลาถึง 8 ปีทีเดียว เพราะในยุคที่โอบามาเป็นประธานาธิบดีก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้หมด แถมการช่วยเหลือของทรัมป์ยังแตกต่างจากโอบามาอีกด้วย เพราะเขาไม่ได้ใช้เงินในการต่อรองเลยแม้แต่น้อย ใช้แค่เพียงการเจรจาเท่านั้น
9.ในยุคของโอบามาดูเหมือนเศรษฐกิจจะตกต่ำจนทำให้ชาวอเมริกันหลายคนมีชีวิตที่แย่ลง แต่เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดี งานด้านการผลิตกลับขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 23 ปี แถมอัตราการว่างงานของชาวอเมริกันที่ไม่จบชั้นมัธยมปลายยังต่ำสุดจากที่เคยถูกบันทึกไว้ด้วย นอกจากนั้นทาง THE WALL STREET JOURNAL ยังได้รายงานเอาไว้ด้วยว่าค่าแรงพุ่งขึ้น 3.1% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 และแรงงานที่มีทักษะต่ำยังเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดอีกด้วย
8.โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตและพรรคริพับลิกันได้ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กฏหมายบางเรื่องที่ไม่ได้รับความสนใจผ่านออกมาใช้ นอกจากนั้นเขายังสามารถปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางกฏหมายอาญา กฏหมายเรื่องเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และเรื่องทางเพศ และการให้สิทธิ์แก่ผู้ป่วยระยะสุดท้ายสามารถเข้าถึงยาที่กำลังทำการทดลองอยู่ได้
7.ยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นยุคทองของผู้หญิงใน CSI เลยก็ว่าได้ เพราะเขาไม่ได้เพียงแต่แต่งตั้ง Gina Haspel เป็นผู้อำนวยการหญิงคนแรกของเอเจนซี่ แต่เขายังทำให้ Elizabeth Kimber เป็นผู้นำหญิงคนแรกของหน่วยงานลับ จนได้รับรางวัล “band of sisters” ซึ่งเป็นรางวัลที่ CIA มอบให้เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจที่เธอต้องทำงานหนักเพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11
6.ในปี พ.ศ.2561 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำให้สหรัฐฯ สามารถขยายการผลิตพลังงานในประเทศได้สำเร็จ ผ่านทางซาอุดิอาระเบียและรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก
5.ในช่วง 6 เดือนหลังจากการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กับเกาหลีเหนือ ณ สิงคโปร์ เรื่องเกี่ยวกับการเยือนเปียงยาง รวมถึงการผลักดันให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยเร็วที่สุด ดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการตกลงที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้ถูกดำเนินการในทันที เพราะต้องรอเวลาอันเหมาะสมเสียก่อน
4.โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าโจมตีซีเรียอีกครั้งและพยายามกำจัดหัวหน้ารัฐอิสลาม ผู้ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มผู้ก่อการร้ายต่อจากโอบามา ด้วยการใช้ “Red Line” ที่โอบามาเคยใช้นั่นเอง โดยในช่วงเดือนธันวาคมทางสหรัฐฯ ได้เข้ายึดฮาจิน ซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้ายที่รัฐอิสลามถือครอง สิ่งที่ทรัมป์ทำถือเป็นการช่วยให้กลุ่มคนบางกลุ่มหลุดพ้นจากนรกของกลุ่ม ISIS
3.โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับมอสโก นอกจากนั้นเขายังประกาศถอนตัวออกจากสนธิสัญญานิวเคลียร์ระดับกลาง ยกเลิกการส่งขีปนาวุธไปยังยูเครน ยกเลิกการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในการประชุมสุดยอดของรัสเซียในเรื่องของการยึดเรือของกองทัพเรือยูเครน เนื่องจากการประชุมครั้งนี้มีนักการทูตโดนไล่ออกไปหลายคนและกำหนดบทลงโทษต่อมอสโกอีกด้วย
2.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดึงประเทศสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรในกรุงเตหะรานอีกครั้ง โดยการคว่ำบาตรในครั้งนี้ทำให้อิหร่านสูญเสียน้ำมันไปหลายล้านบาร์เรล แถมยังนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงสำคัญกับนักลงทุนชาวยุโรปอีกด้วย เพราะชาวอิหร่านได้ออกมาประท้วงเพื่อท้าทายระบอบการปกครองของทรัมป์ ซึ่งต่างจากชาวอิหร่านรุ่นก่อน
1.เขายืนเคียงข้างผู้พิพากษา Brett Kavanaugh ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด เพราะเขานั้นถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งการกระทำของทรัมป์ในครั้งนั้นช่วยให้เขาสามารถขยายเสียงข้างมากในวุฒิสภาได้มากขึ้น
ความจริงแล้วทรัมป์ยังทำสิ่งดี ๆ อีกหลายเรื่องในปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา นอกจากนั้นเขายังกลับไปทำสิ่งที่โอบามาทำทิ้งไว้อีกด้วย สำหรับ 10 เรื่องที่กล่าวมานั้นต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เอาเป็นว่าประธานาธิบดีคนนี้ก็มีด้านที่ดีเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : New York Post
