เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 5 มีนาคม 2562 ณ โรงแรมเดอะ สุโขทัย เขตสาทร กรุงเทพฯ โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธาน พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวง ทส. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ
โดย อธิบดี ทช. เผยว่า ขยะทะเลกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก เนื่องจากเรากำลังเผชิญกับปัญหาขยะที่ล่องลอยจากฝั่งออกสู่ท้องทะเล รวมทั้งขยะที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทางทะเลต่าง ๆ โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่สร้างปัญหามากมายในทั่วโลก เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ทำให้สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แนวปะการังและท้องทะเลเสื่อมโทรม ทำลายทัศนียภาพ และกระทบต่อการท่องเที่ยวของหลายประเทศ
ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทย โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความคิดริเริ่มที่จะแก้ไขปัญหาขยะทะเลอันเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนและส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจของภูมิภาค จึงได้หารือกับสำนักเลขาธิการอาเซียนในการสร้างความร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ซึ่งในปี 2562 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ จำนวน 2 รายการ โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล หรือ “Special ASEAN Ministerial Meeting on Marine Debris” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม 2562 ณ โรงแรมเดอะ สุโขทัย เขตสาทร กรุงเทพฯ
โดยเป็นความคิดริเริ่มของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ปี 2562 เพื่อให้ภูมิภาคนี้มีเวทีในการหารือและหาแนวทางที่เป็นรูปธรรมด้านการต่อสู้กับขยะทะเล เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียนและภาคีผู้สนับสนุน จัดการกับปัญหาขยะทะเลในภูมิภาคอย่างสอดคล้องกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานะของขยะทะเลและความคิดริเริ่มของประเทศสมาชิกด้านมลพิษจากขยะทะเลในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก
ทั้งนี้ ทช. ได้จัดประชุมเพื่อจัดทำร่างเอกสารผลลัพธ์สำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ ด้านขยะทะเล 2 ฉบับ คือ 1) ปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการที่จะบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาขยะในภูมิภาค และ 2) กรอบปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน โดยหวังช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งด้านการวางนโยบายการบริหารที่จะช่วยลดปริมาณขยะทะเล การถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และบทบาทจากการที่แต่ละประเทศได้ดำเนินการให้กับสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ความร่วมมือจากภาคเอกชนที่จะพัฒนานวัตกรรมหรือการนำกลับไปใช้ใหม่ของผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะ โดยเอกสารผลลัพธ์ทั้ง 2 ฉบับนี้ จะถูกนำเสนอเพื่อขอการรับรองในการประชุมระดับผู้นำอาเซียน ในเดือนมิถุนายนนี้
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังจากการประชุมดังกล่าวแล้วเสร็จ เชื่อว่าประเทศอาเซียนจะสามารถพัฒนากรอบหรือแนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาขยะทะเลในระดับภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการติดตามผลเป็นระยะ ๆ เพื่ออาเซียนจะได้ก้าวไปด้วยกันอย่างยั่งยืนต่อไป