เวลาที่ ‘เอะใจ’ ว่าร่างกายอาจกำลังป่วย… คุณไปพบแพทย์ทันทีหรือเปล่า?
เราเชื่อว่าหลายคนกล้าตอบเลยว่า ‘ไม่’! ก็ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองป่วยหนักถึงขั้นต้องไปหาหมอนี่นา แต่รู้ไหมคะว่าแม้ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็ตาม อาจเป็นไซเรนเตือนปัญหาสุขภาพได้ ไบรท์ออนไลน์จึงรวบรวม 13 สัญญาณร่างกายที่คุณไม่ควรละเลย แต่ต้องตระหนักว่าควรพาตัวเองไปพบแพทย์ได้แล้ว
1. เจ็บหน้าอกแบบลามไปที่แขนหรือขากรรไกร
Dr. Robert Milanes อธิบายว่า อาการเจ็บหน้าอกที่แผ่ลามไปที่แขนหรือขากรรไกรไม่เหมือนการปวดเมื่อยจากการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่เป็นสัญญาณของอาการหัวใจวาย! ดังนั้น หากคุณเจ็บหน้าอกแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปหรือมีความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เบาหวาน หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
2. ตาแดงและปวด
เป็นเรื่องปกติหากคุณอดนอน เครียด หรือเป็นภูมิแพ้อากาศ แล้วดวงตาของคุณจะกลายเป็นสีแดงหรือแห้งเล็กน้อย แต่เมื่อไรก็ตามตาข้างใดข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงและเจ็บ (หรือมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย) อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคต้อหินเฉียบพลัน (Acute angle-closure glaucoma) ที่เกิดจากความดันสะสมในดวงตา และสามารถทำให้ตาบอดได้หากไม่ได้รับการรักษา ควรรีบปรึกษาแพทย์นะคะ
3. ปวดหัวกะทันหัน
อาการปวดหัวส่วนใหญ่ของคนเรามักเกิดขึ้นทีละน้อยค่ะ ดังนั้น หากคุณปวดฉับพลัน ‘ปวดหัวแบบสายฟ้าฟาด’ (thunderclap headache) และปวดแบบไม่รู้สาเหตุ ให้ไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะ ‘JB Kirby’ พยาบาลเวชปฏิบัติ บอกว่านี่เป็นสัญญาณของการตกเลือดในสมอง และเสี่ยงต่อการที่เลือดนั้นจะเริ่มทำลายเซลล์สมองของคุณ!
4. จู่ๆ ก็ปวดน่องหรือเป็นตะคริว
การปวดน่องและเป็นตะคริวเป็นเรื่องปกติของคนที่ออกกำลังกายหนักๆ หรือคนนั่งอยู่กับที่นานๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถค่ะ แต่ถ้าจู่ๆ ก็ปวด! อาจเป็นสัญญาณอันตราย โดยเฉพาะหากคุณมีประวัติโรคหัวใจและหลอดเลือด แล้วเป็นตะคริวที่น่องพร้อมๆ กับมีอาการบวมหรือสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีลิ่มเลือดอุดตันที่ขา เพราะลิ่มเลือดเหล่านั้นสามารถถูกขับไปที่ปอดจนเกิดเส้นเลือดอุดตันที่ปอดซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้นะคะ
5. กลืนอะไรก็ลำบาก
อาการ ‘กลืนลำบาก’ เป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของโรคมะเร็งหลอดอาหารค่ะ โดย Dr. Kyle Varner ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ บอกว่าการกลืนอย่างลำบากและมีอาการเจ็บขณะกลืนเป็นอาการที่ควรได้รับการตรวจทันที เพราะหากไม่ได้รับการเฝ้าระวังและดูแลรักษามันจะลุกลามไปสู่โรคมะเร็งที่ไม่สามารถรักษาได้
6. นอนกรน
การนอนกรนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับคนที่เป็นหวัดหรือภูมิแพ้ค่ะ แต่การกรนเรื้อรังอาจบอกถึงปัญหาร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจ หรือการบ่งชี้ว่าต่อมทอนซิลของคุณโตผิดปกติ ดังนั้น ปรึกษาแพทย์ดีที่สุดจ้า
7. ท้องผูก
การรู้สึกว่ามีอาการท้องผูกเป็นระยะ ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ แต่ถ้ามันนานเกินไปคุณต้องปรึกษาแพทย์เพราะมันอาจหมายถึงกำลังมีการอุดตันของลำไส้ก็ได้ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นนานๆ อาจทำให้ลำไส้ฉีกขาด หรือเกิดการติดเชื้อนะคะ
8. ร่างกายหรือใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งอ่อนแรง
หากรู้สึกร่างกายหรือใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งอ่อนแรง ใบหน้าเบี้ยว และพูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง เดาได้เลยค่ะว่าคุณอาจกำลังมีอาการโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attack) ดังนั้น ต้องไปห้องฉุกเฉินโดยเร็วเพื่อรับยา ‘TPA’ ซึ่งเป็นยาที่ต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง!
9. การมองเห็นเปลี่ยนแปลงฉับพลัน
หากรู้สึกว่าความสามารถในการมองเห็นของตัวเองเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น เห็นไม่ชัด เห็นภาพซ้อน เจ็บตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง หรือสูญเสียการมองเห็นเลย ต้องพบแพทย์ค่ะ เพราะต่อให้มีความเป็นไปได้ว่าค่าสายตาของคุณเปลี่ยนไปตามปกติ แต่มันก็อาจเป็นต้นเหตุของ อาการความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง หรือโรคหลอดเลือดสมองได้
10. ‘ไฝ’ เปลี่ยนไป
โดยปกติ ‘ไฝ’ มักไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อเราค่ะ แต่คุณก็ควรหมั่นสังเกตมันให้ดี เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงของสี พื้นผิว รูปร่าง หรือขนาด อาจเป้นสัญญาณของการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้
11. เต้านมไม่เหมือนเดิม
เรื่องสัญญาณของก้อนเนื้อในเต้านมน่าจะเป็นสิ่งที่เราทราบกันดีอยู่แล้วค่ะว่าหากพบแล้วต้องไปพบแพทย์ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่ต้องระวังเช่นกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของหัวนมหรือฐานหัวนม (areola) โดยหากหัวนมหรือฐานเกิดการหดตัวเข้าด้านใน มีการเปลี่ยนสี หรือพื้นผิวบวม ต้องรีบให้แพทย์ตรวจอย่างละเอียดค่ะ
12. ฉี่เป็นเลือด
อาการ ‘ฉี่เป็นเลือด’ เป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณจะเป็น ‘มะเร็งไต’ หรือ ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’ ค่ะ โดยเฉพาะหากคุณมีอาการคลื่นไส้และปวดหลังร่วมด้วย บอกได้เลยว่าต้องพบแพทย์ด่วน
13. น้ำหนักลงอย่างรวดเร็วแบบไม่มีสาเหตุ
หากคุณไม่ได้กำลังไดเอท แต่น้ำหนักตัวกลับลดฮวบฮาบ ขอเตือนให้นัดพบแพทย์เลยค่ะ เพราะนี่เป็นสัญญาณของความไม่สมดุลของฮอร์โมน ไปจนถึงโรคมะเร็ง!
ไม่มีใครรู้จักร่างกายเราดีกว่าตัวเราเองหรอกนะคะ ดังนั้น หมั่นสังเกตและใส่ใจกับอาการและสัญญาณต่างๆ ที่ร่างกายกำลังบอกคุณสักนิด เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีอยู่กับเราไปนานๆ ‘Talk to your body’ กันบ้างน้า
ที่มา: www.thisisinsider.com
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ คลิก
ติดตามข่าวอื่นที่คุณสนใจ คลิก