น้ำส้มสายชูถือเป็นเครื่องปรุงหลักคู่ครัวของชาวเอเชียในหลาย ๆ บ้าน นอกจากใช้ปรุงรสแล้วมันยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างก็คือสามารถช่วยฆ่าเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ในช่วงปี พ.ศ.2546 ที่ประเทศจีนเกิดการระบาดของโรคปอดอักเสบ ทำให้ชาวจีนในมณฑลกวางตุ้งต่างก็รีบไปหาซื้อน้ำส้มสายชูมาตุนเอาไว้กันอย่างมากมาย เนื่องจากไอน้ำจากการต้มน้ำส้มสายชูนั้นสามารถช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์ได้นั่นเอง
แต่จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารควบคุมการติดเชื้อและระบาดของโรงพยาบาล ระบุเอาไว้ว่า กรดอะซิติกซึ่เป็นส่วนประกอบของน้ำส้มสายชูนั้นสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ต้องเป็นการสัมผัสโดยตรงเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วมันยังสามารถกำจัดเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยหลายประเภทตั้งแต่ปัญหาผิวเล็กน้อยไปจนถึงโรคที่คุกคามชีวิต และเชื้อ Escherichia coli ซึ่งปกติอาศัยอยู่ในลำไส้ เจ้าเชื้อสายพันธุ์นี้สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสีย ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและแม้กระทั่งก่อให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้ด้วย
ตามการศึกษาในปี พ.ศ.2553 ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS ONE น้ำส้มสายชูมอลต์ 10% สามารถยับยั้งไข้หวัดใหญ่ได้ เช่นเดียวกับสารฟอกขาว 1% และผงซักฟอก 0.1% ซึ่งนักวิจัยพบว่ามันคือวิธีการที่เหมาะสมในการฆ่าเชื้อบนพื้นผิวที่ปนเปื้อนไปด้วยไวรัส
จากการศึกษาในปี พ.ศ.2557 ที่ถูกตีพิมพ์ในสารสาร mBio เปิดเผยว่าน้ำส้มสายชูสามารถฆ่าเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรค (TB) ในมนุษย์ได้ โดยนักวิจัยได้ระบุเอาไว้ด้วยว่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ เมื่อสัมผัสกับกรดอะซิติก 6% มันจะตายหลังจากผ่านไป 30 นาที
ความน่าสนใจอีกอย่างของน้ำส้มสายชูก็คือ มันถูกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อในตะวันตกเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดโรคระบาดในวัว เมื่อปี พ.ศ.2288 ณ ประเทศฝรั่งเศส ตอนนั้นทางการแพทย์แนะนำให้ใช้ไม้สนในการรมควันวัว
แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีการศึกษาทางวิทยศาสตร์ใด ๆ ที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ไอน้ำจากน้ำส้มสายชูนั้นสามารถกำจัดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ ทาง Mark Lundquist แพทย์จากโรงพยาบาแห่หนึ่ง ได้เขียนเอาไว้ในเว็บไซต์ Quora ว่า การต้มน้ำส้มสายชูนั้นจะทำให้บ้านมีกลิ่น นอกจากนั้นกรดอะซิติกที่มีความเข้มข้นพอที่จะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้นั้นกลับเป็นพิษต่อมนุษย์ นอกจากนั้นการต้มน้ำส้มสายชูยังไม่สามารถต้มบนเตาตั้งพื้นได้อีกด้วย แล้วโดยพื้นฐานแล้วอนุภาคที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ยังไม่ได้อยู่ในอากาศอีกด้วย
ความจริงก็คือไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่นั้นอยู่ในละอองความชื้นจากสารคัดหลั่งที่โพรงจมูกนั่นเอง เมื่อผู้ที่กำลังเป็นไข้หวัดใหญ่เกิดไอหรือจาม ละอองเหล่านั้นอาจจะไปกระทบโดนกับผู้ที่สุขภาพแข็งแรงดีอยู่ก็เป็นได้ หรือไม่อย่างนั้นละอองแหล่านั้นก็อาจจะตกลงพื้นผิวที่คนอื่น ๆ อาจมาสัมผัสได้ เมื่อบุคคลนั้นสัมผัสกับพื้นผิวที่มีสารคัดหลั่งเหล่านี้อยู่ แล้วเอามือไปจับหน้าตัวเอง ก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้ นี่คือวิธีการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่แท้จริง ดังนั้นนอากาศจึงไม่ได้มีเชื้อโรคจึงไม่ได้อยู่ในอากาศ นั่นจึงทำให้ไม่จำเป็นต้อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เพราะอากาศไม่ได้ติดเชื้อโรคอะไรเลย
ส่วนด้าน Amanda Sims บรรณาธิการได้บอกเอาไว้ว่า ไอน้ำจากนำส้มสายชูนั้นสามารถช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในครัวได้ ซึ่งเธอเคยได้ทดลองทำด้วยตัวเองมาแล้ว โดยเธอเล่าให้ฟังว่า “หลังจากที่ฉันทำซุปรวมไปถึงทอดไส้กรอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันทำให้ห้องครัวมีกลิ่นที่แย่มาก ๆ ดังนั้นฉันจึงต้มน้ำส้มสายชูเอาไว้จนเดือด ซึ่งมันทำให้อากาศในอพาร์ทเม้นท์ไม่มีกลิ่นของการทำอาหารหลงเหลืออยู่อีกเลย”
ขอบคุณข้อมูลจาก : NextShark