เคยไหมคะ? ทุกเช้าก่อนออกจากบ้านตัวนี่หอมฉุยเชียว… 2 ชั่วโมงผ่านไปเท่านั้นแหละ กลิ่นอันละมุนจากน้ำหอมที่สเปรย์ติดกายมาก็จางหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! แล้วอากาศเมืองไทยแบบนี้ ฉันต้องแบกกลิ่นไม่พึงประสงค์อื่นแทนกลิ่นหอมไปตลอดทั้งวันอย่างนั้นหรือ? … มาทางนี้ค่ะ ไบรท์ออนไลน์มี ‘8 เคล็ดลับน้ำหอมติดทนตลอดวัน’ จาก ‘Serrano-McClain’ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ก่อตั้ง ‘MCMC Fragrances’ มาฝาก
1. เริ่มด้วย ‘โลชั่น’ เนื้อบางเบา
โลชั่นคือตัวช่วยชั้นดีที่จะ ‘ผูก’ น้ำหอมให้ติดทนอยู่กับผิวของคุณค่ะ ดังนั้น จุดไหนที่จะสเปรย์น้ำหอมลงไปอย่าลืมทาโลชั่นลงไปก่อนนะจ๊ะ อ้อ… ขอให้เป็นโลชั่นเนื้อบางเบา ซึมง่าย และไม่เหนอะหนะนะคะ เพราะหากใช้โลชั่นเนื้อหนักเกินไปจะทำให้ผิวมันเยิ้มและไม่ดูดซับกลิ่นของน้ำหอมค่ะ และต้องเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่มีกลิ่นด้วยนะ เพราะถ้ากลิ่นโลชั่นไปรวมกับกลิ่นน้ำหอมอีกก็จะเป็นการเอิกเริกไปนะ โฟกัสเฉพาะกลิ่นน้ำหอมก็พอค่ะ
2. เลือก base note ที่ใช่!
อธิบายก่อนค่ะว่า ‘base note’ ก็คือ ‘กลิ่นส่วนสุดท้าย’ ซึ่งเมื่อน้ำหอมส่วนมากหมดไปแล้ว แต่กลิ่นของ base note จะยังคงอยู่ โดยบางกลิ่นสามารถอยู่ได้นานถึง 24 ชม. เลยทีเดียว โดยกลิ่น base note ที่แตกต่างก็มีช่วงอายุที่ต่างกันด้วย เช่น กลิ่น Citrus จะจางเร็วที่สุดเนื่องจากมีโมเลกุลเบามาก ขณะที่กลิ่นดอกไม้และเครื่องเทศจะใช้เวลานานกว่า ซึ่ง Serrano-McClain บอกว่ากลิ่น base note ที่นิยมใช้กันมากเนื่องจากติดทนนานที่สุดคือ วานิลลา (vanilla) มัสค์ (musk) และวู้ด (wood)
3. สร้างเลเยอร์ให้กลิ่นหอม
อย่างที่บอกไปว่า Citrus เป็น base note ที่จางไปได้เร็วที่สุด แต่ถ้ามันเป็นกลิ่นโปรดของคุณ มันก็มีกลยุทธฺบางอย่างที่จะช่วยได้ค่ะ โดยอาจลองผสม citrus กับน้ำหอมกลิ่นอื่นมี base note หอมและติดทนกว่า ก็จะสามารถช่วยเพื่อยืดอายุของกลิ่นหอมบนตัวคุณออกไปได้ตลอดทั้งวันแล้วค่ะ
4. ปล่อยผมสยาย
รู้ไหมคะว่า ‘เส้นผม’ นั้นกักเก็บกลิ่นได้ดีกว่าผิวของเราซะอีก ดังนั้น หากคุณคือสาวผมยาว จะยาวปานกลางหรือยาวถึงกลางหลัง ขอให้ปล่อยผมสยายเลยค่ะแล้วสเปรย์น้ำหอมกลิ่นโปรดลงบนปริเวณปลายผม เส้นผมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาจะช่วยส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาตัวคุณได้ตลอดทั้งวันเลยล่ะ อ้อ… แต่ควรสเปรย์แบบห่างๆ เบาๆ พอนะคะ เพราะการฉีดน้ำหอมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ลงบนผมตู้มๆ จะทำให้ผมเสียได้ค่ะ
5. สเปรย์เพิ่มลงบนเสื้อผ้า
Serrano-McClain บอกว่า น้ำหอมที่อยู่บนผิวของเราสามารถจางไปได้เร็วกว่าน้ำหอมที่อยู่บนเสื้อผ้าค่ะ ดังนั้น เราจึงสามารถสเปรย์น้ำหอมลงบนเสื้อผ้าได้นิดหน่อย แบบบางๆ เบาๆ เพราะมันค่อนข้างยากต่อการล้างกลิ่นออกหากเป็นกลิ่นที่ ‘strong’ จริง ๆ จึงขอแนะนำให้เพิ่มตัวช่วยอย่างผ้าพันคอผืนเล็กบางลงไปในวันที่ต้องการความหอมติดทนทั้งวันแล้วสเปรย์น้ำหอมลงไป เพราะการล้างกลิ่นออกจากผ้าพันคอนั้นง่ายกว่ามากเลยค่ะ
6. ‘จุดชีพจร’ คือคีย์สำคัญ
จุดชีพจรอย่างข้อมือ คอ และหลังหัวเข่า คือคีย์สำคัญที่คุณควรโฟกัสให้เป็นจุดที่มีการฉีดน้ำหอมลงไปค่ะ เพราะจุดต่างๆ เหล่านี้จะมีการแผ่ความร้อนออกไปเล็กน้อย และเป็นจุดที่ดีในการกระจายกลิ่นค่ะ
7. เก็บน้ำหอมให้ถูกที่
หากต้องการให้น้ำหอมอยู่ในขวดนานขึ้นควรเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่ ‘เย็นและมืด’ ค่ะ (ย่างในตู้เย็นนั่นไงล่ะ) เพราะหลายคนเชียวที่มักเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำ ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลยเนื่องจากความชื้นและไอน้ำจากการอาบน้ำถือว่าส่งผลเสียต่อน้ำหอมมากกว่าผลดีนะจ๊ะ
8. ฉีดซ้ำได้นะ
หากคุณพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิธีแล้ว แต่กลิ่นหอมก็ไม่เคยอยู่ติดทนจนถึงเวลาหลังเลิอกงานเลย Serrano-McClain จึงแนะนำให้พกน้ำหอมขวดเล็กติดตัวไปด้วยเลยค่ะ แล้วสเปรย์เพิ่มอีก ‘นิดเดียว’ ก็พอหากช่วงหลังเลิกงานคุณมีนัดไปดินเนอร์หรือปาร์ตี้ใดๆ ต่อ…ไม่ต้องซีเรียสค่ะ ก็เหมือนกับที่เราต้องแต่งหน้าเพิ่มด้วยนั่นแหละ
อย่าคิดว่าเรื่อง ‘กลิ่น’ ไม่สำคัญนะคะ เพราะมันสามารถสร้างทั้งเสน่ห์และความมั่นใจให้คุณได้พร้อมๆ กันเลยแหละ ดังนั้น… โฟกัสและให้ความสำคัญกับมันหน่อยก็ไม่เสียหลายนะ
ที่มา: www.rd.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : 5 จุดในร่างกายที่ ‘ไม่ควร’ ฉีดน้ำหอม!
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ คลิก
ติดตามข่าวอื่นที่คุณสนใจ คลิก
