ได้ยินกันมานานนะคะว่า ‘กินทุเรียน แล้วร้อนใน’ แต่ถ้า ‘กินมังคุดตามเข้าไป’ ความเย็นของมังคุดก็จะสยบความเร่าร้อนของทุเรียนได้เช่นกัน!!!! … มันจริงมั้ย เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
‘ทุเรียน’ นั้นเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูงนะคะ แถมยังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตด้วย การจะกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่พอเหมาะจึงไม่ควรกินเกินวันละ 2 เม็ด เพราะถ้าใครคลั่งไคล้ราชาผลไม้มากจนถึงขั้นกินวันละ 2-3 พู (4-6 เม็ด) จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานสูงถึง 520-780 กิโลแคลอรีเลยนะคะ (เหมือนกินอาหารเข้าไป 2 มื้อเลยค่ะ) ดังนั้น ‘ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตากินทุกวัน’ หากกินทุเรียนมื้อไหนให้ลดข้าวและแป้งรวมถึงขนมหวานในมื้อนั้นด้วยค่ะ
ยิ่งถ้าคุณมีโรคประจำตัวอย่างโรคไต เบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังให้มากเรื่องการกินทุเรียน คือยังกินได้นะคะแต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าปกติและกินเป็นครั้งคราว เพราะจะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือดของคุณได้ค่ะ
นอกจากนี้ ตามตำรายาไทยยังบอกด้วยว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีรสหวาน แต่ก็มี ‘ฤทธิ์ร้อน’ จึงมีสรรรพคุณทางยาในการช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด บำรุงกำลัง และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และนี่เองที่ตำรายาไทยจึงแนะนำให้เรานำ ‘ราชินีแห่งผลไม้’ อย่าง ‘มังคุด’ ซึ่งมี ‘ฤทธิ์เย็น’ มากินคู่กับทุเรียนเพื่อลดความร้อนในร่างกายให้เกิดความสมดุล
อย่างไรก็ตาม ในแง่โภชนาการแล้วทั้งมังคุดและทุเรียนคือผลไม้ที่มี ‘น้ำตาล’ ในปริมาณที่สูง ไม่ควรกินมากเกินไป ใครป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันอุดตัน ยิ่งเสี่ยงอันตราย และไม่แนะนำให้กินทั้งราชาและราชินีเข้าไปพร้อมๆ กันค่ะ เปลี่ยนเป็นกินน้ำเปล่าสะอาดๆ ให้มากหลังจากกินทุเรียนจะดีกว่า ช่วยลดความร้อนจากการกินทุเรียนได้เช่นกันจ้า
อ๊ะๆ ใช่ว่ามีวิธีแก้ ‘ฤทธิ์ร้อน’ แล้ว จะกินทุเรียนเท่าไรก็ได้นะคะ คนป่วยยังเสี่ยงอยู่ คนไม่ป่วยก็เสี่ยงน้ำหนักขึ้นและโรคต่างๆ จะถามหาทีหลังได้เช่นกัน ดังนั้น กินอย่างพอเหมาะพอควร แล้วอย่าลืมออกกำลังกายเพื่อสลายแป้ง ไขมัน และน้ำตาลที่ได้รับจากการกินทุเรียนด้วยนะคะ กินได้…แต่ต้องใส่ใจสุขภาพด้วยจ้า
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ คลิก
ติดตามข่าวอื่นที่คุณสนใจ คลิก