กรมศุลกากร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจยึดงาช้างล็อตใหญ่ นำเข้าจากไนจีเรีย มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท
งาช้างล็อตใหญ่ จำนวน 3 กิ่ง 31 ท่อน น้ำหนักกว่า 48 กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท เป็นของกลางที่กรมศุลกากร ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สามารถตรวจยึดได้ โดยทราบว่าเป็นงาช้างที่ถูกลักลอบนำเข้าจากกรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการควบคุมทางศุลกากร เปิดเผยว่า ขบวนการค้างาช้างมักจะลักลอบนางาช้าง มาจากประเทศในทวีปแอฟริกาหรือแอฟริกาใต้ และใช้วิธีการสำแดงชนิดสินค้าประจำถิ่น ในประเทศเหล่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการตรวจสอบ
โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีสินค้าทางอากาศยาน พบข้อมูลการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ นาเข้ามาทางสายการ บินเอธิโอเปีย
ขนส่งจากต้นทางท่าอากาศยานมูตาลามูฮัมเหม็ด กรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย สำแดงชนิด สินค้าเป็นสินค้าทั่วไป 3 หีบห่อ น้ำหนักรวมประมาณ 175 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดสินค้าตรวจสอบ พบงาช้างบรรจุอยู่ภายในหีบห่อ และไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ จากการสืบสวน พบว่าชื่อและที่อยู่ที่สำแดงเป็นชื่อและที่อยู่ที่ไม่มีอยู่จริง มีวัตถุประสงค์เพื่อปกปิดอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบ
ทั้งนี้ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การจับขบวนการลักลอบนำเข้างาช้างยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันทำให้การลักลอบนำเข้างาชาลดน้อยลง