เมื่อวานนี้ 9 ก.พ. 2561 เจ้าหน้าที่กองปราบได้เข้าปิดบ้านพักคนงานของบริษัทยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ทราบชื่อ “แม็ก พิศาล” ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันค้ายาเสพติด ที่ได้หลบหนีจาก จ.สตูล มากบดานอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา
โดยการจับกุมครั้งเป็นการขยายผลมาจากการตรวจยึดไอซ์ล็อตใหญ่จำนวน 95 กิโลกรัม ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเก็บลายนิ้วมือแฝง และได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 ก.พ. และรวบตัวผู้ต้องหารายนี้ได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และได้นำ ไปยังจุดที่เก็บไอซ์ล็อตใหญ่ล็อตเดียวกันกับที่ยึดได้ที่ จ.สตูล ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยถูกเก็บเอาไว้ที่บ้านพักเลขที่ 237 ถ.ประชาอุทิศ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ ซึ่งสามารถตรวจยึดไอซ์ได้อีกจำนวน 123 กิโลกรัม ซึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายวา หรือ แบวา ไม่ทราบนามสกุล ให้ขนไอซ์ล็อตใหญ่ น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ซึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ รวม 6 ใบ โดยมารับของทั้งหมดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน ถ.นิพัทธิ์อุทิศ 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และนำมาพักเก็บไว้ที่บ้านพักที่เช่าเอาไว้ ก่อนที่จะทยอยนำไอซ์ล็อตแรก 3 กระเป๋า หนัก 95 กิโลกรัม ไปพักเอาไว้ที่รีสอร์ทใน จ.สตูล แต่ยังไม่ทันที่จะถึงมือลูกค้า ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามแกะรอย และยึดได้เสียก่อน จึงหลบหนีมากบดานที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนไอซ์อีก 3 กระเป๋าที่เหลือก็ยังคงถูกเก็บเอาไว้ที่บ้านเช่าใน อ.หาดใหญ่ สำหรับไอซ์ล็อตใหญ่ครั้งนี้หากทำงานสำเร็จจะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 1 แสนบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ควนกาหลง ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้ประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งสอบสวนขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้จ้างวาน และกลุ่มผู้รับ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีผู้บงการเป็นคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังพบว่าเป็นเครือข่ายแบวา แก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่ต้องการส่งออกไอซ์ทั้งหมดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะมีมูลค่าสูงมากหลายเท่าตัว