คกก.ปฏิรูปการศึกษาชี้ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้บังคับให้เปลี่ยนตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” มาใช้ “ครูใหญ่” เท่านั้น สามารถใช้คำอื่นได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งระบุ
รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ กรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) ฐานะประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนจะส่งกลับไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวสร้างความกังวลให้แก่ครูและผู้บริหารสถานศึกษา โดยเฉพาะประเด็นคำว่า “ครูใหญ่” ซึ่งเป็นคำที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไว้ ขอยืนยันว่าการปฏิรูปการศึกษาให้ความสำคัญกับผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาในส่วนของการดูแลครู ให้มีคุณภาพ มีจิตวิญญาณความเป็นครู และมีความเป็นหัวหน้าครู จึงใช้คำว่า ให้มีครูใหญ่เป็นหัวหน้าสถานศึกษา โดยใน มาตรา 39 วรรค 3 ระบุว่า ครูใหญ่ หรือ ผู้ช่วยครูใหญ่ จะใช้คำอื่นก็ได้ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งหรือ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะกำหนด
“ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ไม่ได้กำหนดว่า ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาต้องใช้คำว่า ครูใหญ่ จึงขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาสบายใจได้ อีกทั้งในบทเฉพาะกาลยังได้ให้การคุ้มครองสิทธิของบุคลากรที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และไม่มีข้อบังคับว่าต้องเปลี่ยนชื่อตำแหน่งมาเป็นครูใหญ่” รศ.นพ.จิรุตม์กล่าว
รศ.นพ.จิรุตม์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องใบรับรองความเป็นครู ที่อาจเข้าใจว่า ออกให้ใครก็ได้ แต่ใบรับรองความเป็นครูยังให้ความสำคัญกับความเป็นครูตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แค่การประกอบอาชีพหรือวิชาชีพทั่วไป แต่เป็นบุคคลที่ต้องมีคุณลักษณะเฉพาะ เป็นการยกระดับเกียรติและศักดิ์ศรีมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ การจะเรียกชื่อใบรับรองความเป็นครูที่ชัดเจนจะถูกกำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูโดยเฉพาะ คือ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และขอยืนยันว่าใบรับรองความเป็นครูจะไม่ทำให้ความเป็นครูด้อยลง
ด้าน ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธาน กอปศ. กล่าวว่า โดยหลักการทั้ง 2 ประเด็นมีเจตนาให้ความสำคัญกับครูและผู้บริหาร ไม่ได้ทำให้มีสถานะลดลง ส่วนจะไปตั้งชื่อว่าอย่างไรต้องรอกฎหมาย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าที่ทำให้เกิดความกังวลกันนั้นเป็นเพราะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ จึงทำให้เกิดการตีความและเข้าใจคนละทาง นอกจากนี้ยังมีการเสนอถึงหลักคิดที่จะต้องเร่งให้เกิดเป็นรูปธรรม ได้แก่ เรื่องการกำหนดระบบการศึกษาในอนาคตเป็น 3 ระบบ คือ การศึกษาเพื่อคุณวุฒิ การศึกษาเพื่อการพัฒนาตนเอง และ การศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโดย นายไกรยส ภัทราวาท กรรมการ กอปศ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนบางแห่งได้ออกมาเรียกร้องว่า ไม่ต้องการเปลี่ยนตำแหน่งจากผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นครูใหญ่ หลังจากที่มีการเปิดเผยรายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ.การปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ ว่ามีการระบุถึงตำแหน่งของผู้เป็นหัวหน้าครู ว่าคือครูใหญ่