เจ้าหน้าที่ ทหารกองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา เร่งแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อให้เป็นรูปธรรม และได้ผลตามนโยบายรัฐบาล โดยเชิญเจ้าหนี้ และลูกหนี้ เข้ารับฟังคำชี้แจงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาการปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด
ในการประชุมร่วมกันลูกหนี้หลายรายให้ข้อมูลในที่ประชุม ว่า ถูกนายทุนต่างพื้นที่เรียกเก็บดอกโหด จนต้องพาภรรยาหนี อย่างกรณี นายถาวร แก้วศรี ลูกจ้างชั่วคราวสำนักงานเทศบาล ตำบลสนามชัยเขต บอกว่า ก่อนหน้านี้ภรรยา ได้ไปกู้เงินนอกระบบจำนวน 28,000 บาท จากนายทุนที่มาจากจังหวัดนครราชสีมา โดยภรรยา เป็นลูกจ้างร้านขายก๋วยเตี๋ยว มีรายได้เพียงวันละ 300 บาท แต่ต้องมารับผิดชอบส่งดอกเบี้ย วันละ 3,000 บาท ให้แก่เจ้าหนี้รายนี้
ต่อมา ภรรยา หาเงินส่งดอกเบี้ยไม่ได้ จึงถูกสมุนนายทุนเงินกู้ข่มขู่ จนต้องพาภรรยาหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งที่ผ่านมา ได้เจรจาขอผ่อนใช้เพียงเงินต้นที่กู้ยืมมาเท่านั้น แต่ฝั่งเจ้าหนี้ไม่ยอม จึงได้นำเรื่องนี้มาพูดกับหน่วยงานราชการ เพื่อขอเจรจาใช้แต่เงินต้น เพื่อที่ว่าจะได้ให้ภรรยา กลับมาช่วยกันทำมาหากินโดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ
ส่วนลูกหนี้อีกราย คือ นางสาวกัญญาภัค พิมลศรี อายุ 51 ปี แม่ค้าในเขตอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา บอกว่า กู้เงินจากนายทุนเงินกู้มา จำนวน 5,000 บาท ส่งดอกเบี้ย 250 บาท ต่อวัน ส่งมาแล้วเกือบ 1 เดือน แต่ตอนนี้ได้ขาดส่งมาหลายวัน เพราะขายของไม่ได้ ถูกสมุนหมวกกันน็อคของนายทุนมาตามทวงหนี้ ทั้งข่มขู่สระพัด จนต้องหลบหนี เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายเหมือนที่เคยเป็นข่าว จึงมาพึ่งพาเจ้าหน้าที่ เพื่อเจรจากับนายทุน และ หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูกตามกฎหมายไปใช้หนี้ เพื่อประกอบอาชีพทำมาหากินอย่างปกติไม่หลบๆ ซ่อนๆอีก
นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกำหนดแนวทางปฏิบัติ โดยเฉพาะ เจ้าหนี้หรือนายทุน ต้องเข้ารายงานตัว และให้ข้อมูลทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ หากพ้นกำหนดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับนายทุนหรือเจ้าหนี้ ส่วนลูกหนี้จะไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด
ด้านพล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังพบว่า มีกลุ่มนายทุนจากนอกพื้นที่เข้าปล่อยเงินกู้แบบดอกเบี้ยโหดในเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นกลุ่มทวงหนี้โหด และลูกหนี้เคยประสบอันตรายจากคนกลุ่มนี้ จึงได้มอบหมายให้ทางตำรวจ ออกสืบสวนสอบสวนให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดก็แล้วแต่ มาบูรณาการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ให้เป็นรูปธรรมต่อไป