ตร.ประชุมชุดคลี่คลายคดียิงปธ.ม้ง ยังมุ่งประเด็นสังหารเกี่ยวข้องเรื่องยาเสพติด ขณะที่สืบทราบคนร้าย 3 คนหลบหนีไปฝั่งลาว
โดยในวันนี้ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปประชุมชุดคลี่คลายคดีด้วยตัวเอง โดยการหารือในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงมุ่งปมยิงถล่มว่าเกี่ยวข้องกับคดีมูลค่ากว่าพันล้านบาทโดยตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 9.4 ล้านเม็ด และยาไอซ์และเคตามีน 788 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.และคดีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาไอซ์ 260 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน พื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งได้จัดกำลังออกไปปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่หมู่บ้านห้วยหาน หมู่ 9 ต.ปอ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่นายทวีศักดิ์อาศัยอยู่จำนวน 4 เป้าหมาย และเรียกคืนผู้ครอบครองปืนในพื้นที่จำนวน 300 กระบอกไปตรวจสอบด้วย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมุ่งปมคดีนี้ไปยังเรื่องยาเสพติดดังกล่าวเป็นสำคัญโดยมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงโดยเฉพาะคดีล่าสุดที่มีการจับกุมได้ สำหรับกลุ่มคนที่น่าจะเกี่ยวข้องนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาแล้วโดยมีข้อมูลเพื่อการระบุกลุ่มได้บางส่วนที่แคบลงมาแล้วแต่เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยมากไม่ได้ กรณีมีตำรวจ ปส.เข้าร่วมเพื่อมีข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อคดีนี้ซึ่งในการหารือครั้งนี้ก็จะหารือกันถึงเรื่องปืนที่ตรวจยึดว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงจะพยายามให้สามารถคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด
สำหรับการเรียกตรวจอาวุธปืนลูกซองของทางราชการจำนวน 315 กระบอก เมื่อวานนี้พบว่าจนถึงวันนี้ยังมีปืนที่ยังไม่นำมามอบ 50 กระบอก แต่คาดว่าวันนี้จะมีการนำมามอบจนครบ ซึ่งในการตรวจสอบนั้นจะเจ้าหน้าที่จะนำปืนไปยิงวันละ 50 กระบอก แล้วตรวจปลอกกระสุน โดยคาดว่าภายใน 1 สัปดาห์น่าจะทราบผล
ด้าน พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 กล่าวว่ายังคงมุ่งเป้าไปยังเรื่องของคดียาเสพติดที่ผ่านมาเป็นสำคัญเหมือนเดิม โดยสืบทราบก่อนเกิดเหตุยิงถล่มครั้งนี้มีผู้ที่อาฆาตถึงขั้นจะเอาชีวิตนายทวีศักดิ์โดยเจ้าตัวก็รู้ตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อลงมือจนแล้วเสร็จแล้วก็ได้หลบหนีไปโดยสืบทราบว่ามีหลายคนทั้งกลุ่มคนวางแผน สั่งการ ลงมือ โดยคนร้ายจำนวน 3 คน ได้หลบหนีไปอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว แล้ว แต่เชื่อว่าบางส่วนยังอยู่ฝั่งไทย ทั้งนี้เชื่อมโยงกับทั้ง 2 คดีที่จับยาได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานและสอบพยานต่างๆ เพิ่มเติม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และนำมาเปรียบเทียบกับชุดคลี่คลายคดีของ ภ.5 ในครั้งนี้พบว่าตรงกันทำให้ทราบถึงกลุ่มต่างๆ แล้ว จึงเหลือเพียงการตรวจหาข้อมูลหลักฐานและพยานต่างๆ มาประกอบสำนวนคดีให้มีความรัดกุมก่อนมีการดำเนินการต่อไป
ส่วนบรรยากาศของการบำเพ็ญกุศลศพ นางไหมเยีย วงค์นภาไพศาล ภรรยาของนายทวีศักดิ์ ก็เป็นไปท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติ โดยศพของนางไหมเยีย ถูกนำมาประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวม้ง ภายในบ้านพักเลขที่ 232 บ้านห้วยหาน ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นเวลาน้อย 3-4 วัน ก่อนที่ญาติจะนำไปฝังไว้บริเวณเดียวกันกับที่ฝังศพลูกสาว ด้านหลังโรงเรียนบ้านรักแผ่นดิน หมู่ที่15 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง ที่เบื้องต้นกำหนดไว้ประมาณวันที่ 4 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ส่วนตัวกำนันทวีศักดิ์และลูกชาย ที่ได้รับบาดเจ็บ ยังคงทำการรักษาโดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด