“พล.อ.ประยุทธ์” และ “นายมุน แช-อิน” เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือ 6 ฉบับ เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาแรงงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายมุน แช อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ เป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความร่วมมือ 6 ฉบับ ประกอบด้วย
บันทึกความเข้าใจด้วยความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ
บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลี ของกระทรวงศึกษาธิการ
บันทึกความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ว่าด้วยการคุ้มครองข่าวสารทางทหารที่มีชั้นความลับร่วมกัน ของกระทรวงการต่างประเทศ
บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการค้าอุตสาหกรรม และพลังงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อจัดทำความร่วมมืออุตสาหกรรม 4.0
บันทึกความตกลงว่าด้วยการต่ออายุบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือระบบราง กระทรวงคมนาคม และบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในนามของประเทศไทยและประชาชนชาวไทยยินดี และเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับประธานาธิบดีและภริยา ในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่าทั้งสองประเทศมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านยุทธศาสตร์ให้ผลเป็นรูปธรรม โดยการเดินทางครั้งนี้ ประธนาธิบดีเกาหลีได้นำภาคเอกชน กว่า 200 คน มาร่วมงานสถาปนาทางธุรกิจไทย – เกาหลีใต้ ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า จะมีการหารือแบบเต็มคณะอีกครั้ง ซึ่งจะพูดถึงเรื่องประเด็นการขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ในระยะต่อไปที่ทั้งสองฝ่ายเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจโลก กับสภาวะผันผวนของภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งควรจะหาโอกาสเพิ่มพูน ในเรื่องของการลงทุนระหว่างการในภูมิภาคควบคู่กับการผลักดันการเจรจาหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภูมิภาค โดยให้บรรลุภายในปีนี้ ซึ่งได้เชิญทั้งเกาหลีใต้ และภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญร่วมการลงทุน EEC โดยประเทศเกาหลีใต้มีความสนใจในการลงทุนรถไฟฟ้ารางเบา ในเมืองท่องเที่ยวของไทย และพร้อมจะรื้อฟื้นความร่วมมือในการประชุมเศรษฐกิจไทยและเกาหลีใต้ให้ได้ภายในปีนี้ รวมไปถึงด้านการทหาร ก็จะมีการหาความร่วมมือในการฝึกซ้อม รวมถึงบันทึกความลับด้านการค้าร่วมกัน
ทั้งนี้ เรื่องของแรงงานที่เดินทางไปหางานที่เกาหลีใต้ ประเทศไทยต้องการสนับสนุนให้ประชาชนเดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งประเทศไทยพร้อมจะให้ความร่วมมือ แก้ไขแรงงานผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าว Bright Today