เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิท ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวการบริหารจัดการทรัพย์สินของตนหลังการเลือกตั้งว่า ตน ได้เซ็นสัญญา MOU โอนสินทรัพย์ของตนไปให้ กองทุน‘Blind trust’ โดยให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหาร ซึ่งการโอนสินทรัพย์ไปยังกองทุนดังกล่าว ก็เพื่อลบข้อครหาไม่ให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ในกรณีที่นักธุรกิจ เข้ามาทำงานการเมือง
นายธนาธร กล่าวว่า นักธุรกิจเข้ามาทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ของประเทศไทย หรือต่างประเทศ ซึ่งผมอยากจะสร้างมาตรฐานการทำการเมืองใหม่ เพราะ ข้อดีอันดับแรกคือไม่ต้องวอกแวกไปกับการจัดการทรัพย์สินของตัวเอง ทำให้เราทุ่มเทพละกำลังและเวลาของเราในการทำงานรับใช้ประชาชนได้อย่างเต็มที่
ประการที่สอง มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ผลักดันให้พวกเรามาทำงานการเมืองก็เพื่อทำให้สังคมดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แม้จะมีขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดให้เราทำ แต่สิ่งที่เราจะทำให้มากกว่านั้นคือสร้างมาตรฐานใหม่ ยกระดับความโปร่งใส สร้างมาตรฐานการดูแลผลประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ไปไกลกว่ากฎหมาย
นายธนาธร กล่าวว่า เมื่อตนเอาทรัพย์สินไปไว้ในกองทุนแล้ว ทุกอย่างจะจบ โดยในสัญญาระบุว่า ตนจะได้กรรมสิทธิ์ในกองทุนกลับมาบริหารเอง หลังจากออกจากตำแหน่งทางการเมือง 3 ปี
เมื่อถามว่า ถอดบทเรียนจากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกยึดทรัพย์ใช่หรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ได้มีแค่นายทักษิณเท่านั้น ตนอยากสร้างมาตรฐานใหม่ให้นักธรุกิที่มาทำงานการเมือง เชื่อว่าหลายคนในหลายพรรคการเมืองอื่น ก็มีนักธรุจกิจ มีคนแบบตนหมด แต่เราอยากทำให้เป็นตัวอย่างว่า ถ้าเราทำงานการเมืองแบบนี้แล้ว ควรจัดการกับทรัพย์สินอย่างไร
โดยหลักการที่นายธนาธร ทำร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนคือจะโอนสิทธิการบริหารจัดการทรัพย์สินของตนเองไปให้บริษัทจัดการแทน ซึ่งมีเงื่อนไขว่า
1. นายธนาธรจะไม่สามารถกระทำการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการเข้าไปบริหาร ครอบงำ หรือออกคำสั่งเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองได้
2. เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน บริษัทจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดให้นายธนาธรหรือบุคคลอื่นใดได้รับทราบถึงรายละเอียดการบริหารจัดการทรัพย์สินทั้งหมด
3. บริษัทจะต้องไม่เข้าไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่เป็นคู่ค้ากับรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานรัฐใดๆ
ทั้งนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือเป็นนักการเมืองไทยคนแรก ที่ทำ MOU โอนทรัพย์สินเข้า กองทุน ‘Blind trust’ ซึ่งในต่างประเทศมีการสร้างมาตรฐานในเรื่องนี้ไว้นานแล้ว เพื่อให้สาธารณชนไว้วางใจอย่างชัดเจน ว่าจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น