กองปราบสอบสวน อดีตพระพรหมสิทธิ นานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น ได้นิมนต์ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ ฝากขังผัดแรก ในคดีพัวพันทุจริตเงินทอนวัด โดยเจ้าหน้าที่เตรียมชุดขาวให้แล้วหากไม่ได้รับการประกันตัว
โดยศาลคดีทุจริต รับคำร้องฝากขังผัดแรก12วัน ระหว่างวันที่ 30พฤษภาคม ถึง10มิถุนายน หลังพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า กระบวนการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องสอบพยานที่เกี่ยวข้องอีก20ปาก และเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากพยานหลักฐานอยู่ในการครอบครองของผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก รวมถึงพฤติการณ์มีการทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ และคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวเกรงว่าจะหลบหนี
ล่าสุด เมื่อ1ชั่วโมง ที่ผ่านมา มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว พระธงชัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ถอดจีวรเปลี่ยนเป็นชุดขาว ก่อนคุมตัวไปขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ ทนายความของพระธงชัย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว ต่อไป
สำหรับการนิมนต์ พระธงชัย สุขญาโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจกองปราบก็ได้ มีการจัดกำลังตำรวจคอมมานโดมารักษาความเรียบร้อยกว่า 30 นาย ตั้งแถวตั้งแต่หน้าประตูกองปราบปรามยาวกว่า 50 เมตร ไปจนถึงรถตู้ที่มารอรับไปยังศาล โดยไม่ได้พูดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน โดยพระธงชัยถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง รวมถึงมีการนำแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจเข้าตรวจร่างกายด้วย โดยมีทนายความของพระธงชัย เตรียมนำเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาท เพื่อมาขอยื่นประกันตัวด้วย
ปมที่ทำให้ พระธงชัย ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาจากพบเส้นทางการเงิน มีการโอนให้กับบุคคลภายนอก รวมถึงพบบัญชีธนาคารบัญชีส่วนตัวเป็นชื่อของเจ้าอาวาส 10 บัญชี พบเงินหมุนเวียนกว่า 130 ล้านบาท จากการทุจริต คือ ปี 2557 งบประมาณสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรม ของวัดสระเกศ จำนวนกว่า 87 ล้านบาท ทั้งที่วัดสระเกศไม่มีการจัดตั้งโรงเรียน ส่วนปี 2559 แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอบรมคุณธรรม งบประมาณ 37 ล้านบาท ถูกนำไปกระจายให้วัด 2 แห่ง ในต่างจังหวัดรวม 8 ล้านบาท และได้มีการทอนคืนวัดสระเกศ 29 ล้านบาท
ส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา งบประมาณ 32 ล้านบาท พบว่า ไม่ได้นำไปใช้บำรุงศาสนาแต่อย่างใด แต่ถูกโอนเข้าบัญชีของนางสาวนุชรา สิทธินอก จำนวน 25 ล้านบาท และนายธีระพงษ์ พันธุ์ศรี อีกจำนวน 5 ล้านบาท ทำให้เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินด้วย รวม 2 ปี ทุจริตกว่า 130 ล้านบาทด้วย
ย้อนไปในช่วงที่พระธงชัยยังหลบหนีการจับกุม ในวันที่ตำรวจกองปราบบุกเข้าค้นกุฎิวัดสระเกศฯ มีการคาดการณ์ว่า พระธงชัยไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ยังหลบอยู่ในห้องลับภายในวัดสระเกศฯ ขณะที่บางรายงาน เชื่อว่า พระธงชัยใช้ช่องทางห่างจากกุฎิของพระพรหมสิทธิ ไม่เกิน 300 เมตร ซึ่งเดิมที่ พื้นที่บริเวณนี้ เคยเป็นชุมชนแออัดที่มาอาศัยพื้นที่วัดอยู่มาอย่างยาวนาน จนบ้านเริ่มทรุดโทรม พระธงชัยจึงให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ที่วัดสร้างไว้รองรับ มีการสร้างเป็นห้องแถวอย่างดี