“บิ๊กตู่” ลั่นไม่กลัว-ไม่โกรธ ! เมินร่วมประชันเวทีดีเบต โวแสดงฝีมือให้เห็นแล้ว ชี้เสียเวลาประดิษฐ์ประดอยคำ เย้ยโจมตีไปมาไม่ได้อะไร
26 ก.พ.62-ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคสช. และการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กรณีพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวหนังสือ”ประชารัฐ สร้างชาติ”ว่า ได้เห็นหนังสือแล้ว ซึ่งพรรคจัดทำขึ้นเพื่อแจกส.ส.และสมาชิกพรรคเท่านั้น เนื่องจากพรรคเสนอชื่อตนเป็นนายกฯ ส่วนได้มีการเตรียมตัวหรือไม่ หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาว่าสามารถขึ้นเวทีดีเบตได้นั้น ยืนยันเตรียมตัวมานานแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นในการดีเบต และไม่ใช่กลัวหรือไม่กลัว แต่ต้องดูว่าเวทีดีเบตเป็นอย่างไร เพราะเป็นการโจมตีกันส่วนใหญ่ ไม่เคยมีสารัตถะ และเถียงกันในตอนต้น พอถึงตอนปลายไม่มีใครสนใจนโยบาย แต่ไปอินกับการโจมตี รวมถึงเล่นงานกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ ดังนั้นขอไปดูการดีเบตในต่างประเทศว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นคงไม่ไปไม่ว่าใครจะมากระตุ้นอะไรก็ไม่โกรธและไม่กลัว
“สิ่งสำคัญวันนี้กำลังทำงาน เป็นการเสียเวลาที่ต้องไปประดิษฐ์ประดอยคำพูดต่างๆ สออกมาให้ปวดหัว เพราะแค่ทำงานในระบบก็แย่พออยู่แล้ว สิ่งต่างๆเป็นข้อเท็จจริงอยู่แล้ว หากต้องการทราบวิสัยทัศน์ของผมในฐานะที่จะเป็นนายกฯต่อไป สมมุติได้เป็น ซึ่งวิสัยทัศน์มีอยู่แล้ว คือ มั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใต้ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งจบแล้ว ขณะที่นโยบายทั้ง 11 ด้านของรัฐบาล รวมถึงวาระแห่งชาติ ก็ได้แก้ไขปัญหาไปหมดแล้ว ผมได้แสดงฝีมือให้เห็นแล้ว”นายกฯ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ถ้าถามว่าในอนาคตหากได้เป็นนายกฯต่อจะทำอะไรต่อไป ที่ผ่านมาได้จัดทำยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกฎหมายการเงินการคลัง รวมถึงกฎหมายต่างๆ ออกมาแล้ว ทุกอย่างไม่ได้แก้ที่ปลายทางจะต้องแก้ที่ต้นทางด้วย โดยทุกอย่างพูดลอยๆไม่ได้จึงต้องมีกฎหมายทั้งหมด รวมถึงการคิดนโยบายอะไรก็ตามต้องปฏิบัติได้จริง ยืนยันไม่อยากพูดโต้ตอบกับใคร แต่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าจริงว่าการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวันนี้หลายเรื่องกลายเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งอาจะเป็นการให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งและการหาเสียง แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะหากพูดกันไปมาจนไม่มีสาระอะไรเลย กลายป็นการฟ้องกันมาจะทำอย่างไร และจะให้ตนแก้ปัญหาอย่างไร ดังนั้นขอให้ทุกคนลดท่าทีของตนเองไปบ้าง
“หากพูดถึงนโยบายก็จะบอกว่าจะทำอย่างไร และให้เงินจากที่ไหน ซึ่งวันนี้รัฐบาลคำนึงของรายได้ของประเทศ และไม่ให้หนี้สาธารณะเพิ่ม รวมถึงสอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนสภาพัฒน์ฯ 5 ปี เคยมีใครทำงานแบบนี้หรือไม่ หลายเรื่องที่สามารถเร่งรัดได้โดยการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ อีกทั้งรัฐบาลทำมาตลอด 5 ปี ใน 11 นโยบาย แก้ปัญหาหลายอย่างเดินหน้าไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายระดับที่ต้องทำต่อ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว