วันนี้ (10 ม.ค.62) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายสุนทรา พลไตร ผู้อำนวยการส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง. นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร รอง ผบก.ปปป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตฟอกเงินงบประมาณสำนักพุทธศาสนา(พศ.) จำนวน 6 ราย จากวัดหลายแห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระระดับเจ้าอาวาสรวมอยู่ด้วย
พ.ต.อ.จักษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า วัดทั้ง 7 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นนทบุรี , จ.อุดรธานี,จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ลำปาง ได้เบิกของบปริยัติธรรม โดยกองทุนพุทธศาสนศึกษาในปีงบประมาณ 2559-2560 วงเงินกว่า 60 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งหมด 75 ล้านบาท แต่พบว่า วัดดังกล่าวไม่มีโรงเรียนสอนปริยัติธรรม โดยทาง ปปง.จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนกระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ พศ. 4 ราย พระระดับเจ้าอาวาส 1 รูปจากวัดแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี และฆราวาส 1 ราย แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้จับสึก เนื่องจากเพิ่งจะเริ่มกระบวนการสอบสวน
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ปปป. ได้ดำเนินคดีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 กับ เจ้าหน้าที่ พศ. 4 คน ซึ่งสั่งฟ้องไปแล้ว แต่คดีฟอกเงินยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะออกหมายเรียกผู้กระทำผิดทั้ง 6 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเงินทอนวัดล็ต 3 นี้ ก็มีเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัดในช่วงเฟสที่ 2 ต่อ 3 ด้วย
พ.ต.อ.จักษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะเรียกผู้กระทำผิดทั้งหมดเข้าสอบปากคำ และรวบรวมเอกสารหลักฐานจาก ปปง. ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด เพราะยังมีวัดอีกหลายแห่งที่จะต้องทำการตรวจสอบเช่นกัน