ตำรวจสน.ตลิ่งชัน เร่งไล่ล่า หนุ่มหื่น ลวงสาว 19 ปีข่มขืน ชิงทรัพย์ ตรวจพบแม่เป็นครู พ่อเป็นอดีตตำรวจ และเคยเกี่ยวข้องยาเสพติด ด้านผบ.ตร. สั่งดำเนินคดีให้รวดเร็ว
จากกรณีหญิงสาววัย 19 ปีเข้าแจ้งความที่สน.ตลิ่งชัน ถูกคนร้ายซึ่งรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นก็พูดคุยผ่านทางโปรแกรมเมสเซ็นเจอร์บ่อยครั้ง ก่อนแชทชักชวนผู้เสียหายไปเที่ยว และขับรถไปรับผู้เสียหายพาไปผับย่านตลิ่งชัน พร้อมพาไปบ้านพักก่อนใช้กำลังบังคับข่มขืน ชิงทรัพย์ แล้วทิ้งผู้เสียหายไว้ก่อนขับรถหลบหนีไป
จากการสอบสวน ทราบว่า วันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาแชทชักชวนสาว 19 ปีไปเที่ยว ก่อนขับรถไปรับผู้เสียหายพาไปผับย่านตลิ่งชัน กระทั่งเวลา 00.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ผู้ต้องหาพาผู้เสียหายไปที่บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. เป็นบ้าน 2 ชั้น ก่อนให้ผู้เสียหายเข้าไปในบ้าน แล้วล็อกกุญแจประตูขังไว้ กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น.ผู้ต้องหา ย้อนกลับมาที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นพาผู้เสียหายไปขืนใจภายในห้องนอน ก่อนใช้กำลังบังคับตบ-ตีชิงกระเป๋าสะพาย โทรศัพท์มือถือ และแหวนของผู้เสียหาย
จากนั้น 16.30 น. วันเดียวกัน ได้พาผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาอุดมทรัพย์ แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. ได้เงินไป 500 บาท แล้วทิ้งผู้เสียหายไว้ก่อนขับรถหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงนำเรื่องไปปรึกษาผู้ปกครองจนเข้าแจ้งความดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้รวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาล กระทั่งอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ไม่พบว่าผู้ต้องหามีคดีแต่อย่างใด แต่พบว่าเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่านายภคพงษ์ โดยเมื่อปี 2552 เคยทำงานที่บริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนลาออกไปเป็นลูกจ้างที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วลาออกในปี 2554 เบื้องต้นคาดว่าน่าจะหลบหนีไปอยู่บ้านญาติในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามจับตัวมาดำเนินคดี
ล่าสุดฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน ได้ลงพื้นที่ติดตามผู้ต้องหาตามจุดต่างๆที่คาดว่าผู้ต้องหลบหนีกบดานอยู่ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีฐานะปานกลาง แม่เป็นครู พ่อเป็นอดีตตำรวจ ผู้ต้องหามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และชอบแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะสร้างรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กให้ดูหน้าเชื่อถือ เพื่อไว้หลอกลวงผู้อื่น
โดยช่วงที่เหยื่อล่าสุดสามารถหลบหนีมาได้ขณะที่ถูกบังคับไปกดเอทีเอ็ม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีบรรดาแม่ค้าได้สังเกตความผิดปกติตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น จึงได้เฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเหยื่อตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่และน่าจะได้ข่าวดีภายใน 2-3 วันนี้
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลจนสามารถออกหมายจับได้ ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดีให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน