ในประเทศอังกฤษนั้น อาชีพที่เด็กใฝ่ฝันอันดับ 1 ก็คือนักฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เพราะในดินแดนผู้ดีใครได้เป็นพ่อค้าแข้งมืออาชีพถือว่าเป็นเทวดาและเดี๋ยวนี้แทบจะการันตีรายได้ขั้นตํ่าสัปดาห์ละกว่า 50,000 ปอนด์ (ราว 1.87 ล้านบาท) เลยทีเดียวและยิ่งเป็นซูเปอร์สตาร์ก็ยิงทำเงินได้กว่าหลักแสนปอนด์ขึ้นไป
นายมาร์ก คาลวินผู้เขียนหนังสือ “No Hunger in Paradise: The Players. The Journey. The Dream” อธิบายว่า เด็กในอะคาเดมี่ฟุตบอลจำนวน 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ มีเพียง 180 คนเท่านั้นที่ได้รับโอกาสเล่นบนเวทีลีกบอลสูงสุดอย่างพรีเมียร์ลีกคิดเป็น 0.012% ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ
และถ้าไม่เจ๋งจริงๆ ก็ไม่สามารถขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมชุดใหญ่ได้ อย่าที่มาร์คัส แรชฟอร์ดกับเจสซี่ ลินการ์ด 2 ดาวเตะแมนยูมากล่าวเมื่อตอนปิดฤดูกาลนั่นแหละ เพื่อเป็นการแสดงว่าเขามีดีพอที่จะขึ้นมาเป็น 0.012% นั่นเอง
นอกจากนี้ เปอร์เซ็นต์ที่เรากล่าวมา มันจะยิ่งน้อยลงไปอีก ที่จะประสบความสำเร็จระดับคว้าแชมป์ได้ โดนมันจะแตกไปได้ 2 แง่ 2 ง่ามคือ
-หนึ่ง คือความมีมุมานะและอุตสาหะเหมือนต้องการจะบอกว่าถ้าไม่ตั้งใจหรือไม่ขยันและหมั่นฝึกซ้อมถึงจะได้เป็นนักเตะในระดับพรีเมียร์ลีก
-สอง ก็สามารถตีความได้เช่นกันถึงความหยิ่งผยองและจองหอง ประมาณว่าผมเทพ หรือผมเจ๋งแบบเต็มประดา ส่วนพวกที่ด่ามันไม่มีปัญญาเป็น 0.012% แบบผม
อย่างไรก็ตาม การเป็นนักเตะในระดับสูงนั้นยากมากๆ แม้เด็กในอังกฤษ ทั่วโลกจะใฝ่ฝันก็ตาม แต่เรื่องสำคัญคือที่นั่นคนที่ไปไม่ถึงดวงดาวทางอะคาเดมี่ก็จะได้รับจากกระทรวงศึกษาธิการของอังกฤษ ให้วุฒเทียบเท่าไฮสกูลหรือเทียบคือถ้าคุณไม่ได้สัญญานักเตะอาชีพตอนอายุ 18 ก็ต้องไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแทน
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.businessinsider.com/michael-calvin-shocking-statistic-why-children-football-academies-will-never-succeed-soccer-sport-2017-6
https://www.thesun.co.uk/sport/football/9171519/man-utd-rashford-lingard-slammed-social-media/