ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือยังคงวิกฤตหนัก โดยในจงหวัดเชียงราย กรมควบคุมมลพิษตรวจว่า ค่าอากาศพื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง มีค่าพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 305 ไมโครกรรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่าพีเอ็ม 10 อยู่ที่ 344 ไมโครกรรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย มีค่าพีเอ็ม 2.5 ที่ 353 ไมโครกรรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าพีเอ็ม 394 ไมโครกรรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นค่าที่สูงที่ในประเทศอยู่ในขณะนี้
สภาพอากาศดังกล่าวสถานบันการศึกษา 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประกาศปิดทำการเรียนการสอนเบื้องต้น 2 วัน คือระหว่างวันที่ 1 และ 2 เมษายน นี้ เพราะ อาจมีผลกระทบต่อนิสิตนักศึกษาได้ ซึ่งหากยังมีความรุนแรงต่อเนื่องก็อาจมีประกาศปิดการเรียนต่อ
จากปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นทำให้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ออกแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลออกมาแก้ไขปัญหาเรื่องหมอกควันอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นว่าเป็นภัยพิบัติแล้ว
โดย รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ระบุว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ไขวิกฤตอย่างเต็มที่ และปัญหาหมอกควันในครั้งนี้เป็นที่ทราบว่าแหล่งมลพิษเกิดจากกิจกรรมภายในประเทศ และมลพิษข้ามแดนจากประเทศรอบข้าง ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ และมีการใช้พื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือประชุมอาเซียน ในฐานะประชาชนต้องการเห็นบทบาทของประเทศไทยในการผลักดันประเด็นหมอกควันข้ามแดนเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน
นอกจากนี้ในภาวะวิกฤติ ประชาชนไม่ควรแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจากความล้มเหลวของภาครัฐที่ไม่อาจคงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับประชาชนได้ จึงขอเรียกร้องรัฐมีนโยบายในการลดภาษีสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย N95 เครื่องฟอกอากาศ และอุปกรณ์ในการดับไฟป่า ต้องปลอดภาษี และขอเรียกร้องให้กรมสรรพากรประสานกับหน่วยงานที่รับบริจาคอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตินี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และสถานพยาบาลรัฐต้องเปิดคลินิกพิเศษ บริการ 24 ชั่วโมง สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้เข้าใช้บริการตรวจและรักษาฟรี
ทั้งนี้จึงขอให้ภาครัฐประกาศว่า เขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นเขตภัยพิบัติด้านอากาศที่ต้องมีมาตรการพิเศษมาดำเนินการและเยียวยาโดยเร่งด่วน โดยแถลงการณ์ฉบับนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดทำขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเป็นตัวแทนของประชาชนในเขตภาคเหนือตอนบนในการเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องหมอกควันในภาคเหนือตอนบนโดยเร่งด่วนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้ รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของรัฐเข้าร่วมแก้ปัญหาโดยฉับพลัน