“วราวุธ” เล็งใช้โดรนตรวจจับความร้อนป้องไฟไหม้ป่าพรุ อ้าง ดาวเทียม ถ่ายภาพได้วันละ 1 ครั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. เกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ว่า มีสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัย ด้วยสภาพเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ มีการทับถมกัน จนเป็นชั้นดินเรียกว่าพรุ และเมื่อมีการทำเกษตรรอบป่าพรุ ทำให้น้ำในบริเวณป่าแห้งลง จนกลายเป็นเชื้อไฟชั้นดี แต่บางครั้งก็เกิดจากชั้นดินสะสมความร้อนมากขึ้น หรืออาจมีผู้ไม่หวังดีไปจุดไฟ ทำให้การมอนิเตอร์ไฟที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ยาก และบางครั้งไฟมักจะปะทุขึ้มาจากใต้พื้นดิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาศูนย์ควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ได้รับความร่วมมือจากการสนธิกำลังจะทุกฝ่ายในพื้นที่ ระดมเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำจากกองทัพเข้าไปทิ้งน้ำ เพราะเราไม่สามารถลำเลียงจนเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุได้ และอยู่ในพื้นที่ป่าซึ่งท่อดับเพลิงยังมีความยาวเข้าไปไม่ถึง เราจึงขอกำลังสนับสนุนเรื่องโดรนสายส่งน้ำและหน้ากากป้องกันควัน
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการไปถึงอธิบดีกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้จัดหางบประมาณในการจัดซื้อโดรนมาใช้ เพื่อประหยัดเวลาการทำงานในการลาดตระเวน เพื่อให้หน่วยราชการมีโดรนที่สแกนตรวจจับความร้อน ซึ่งกรมป่าไม้ได้สามารถภาพถ่ายดาวเทียมที่จะสแกนว่าพื้นที่ใดที่มีความร้อนเกิดขึ้น ได้เพียงแค่วันละ 1 ครั้ง ดังนั้นถ้าหน่วยราชการมีโดรนที่สแกนค่าความร้อนได้ แบบ 6-8 ใบพัด จะมีศักยภาพการบินตรวจการณ์นานเป็นชั่วโมง มีรัศมีทำการได้ไกลกว่า
อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในบริเวณพื้นที่โดยรอบให้ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นจุดสุ่มเสี่ยง ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการได้ทันที