จากกรณีที่มีคนร้ายฆ่าโหดนางสุรินทร์ สอดสี อายุ 66 ปี เจ้าของสำนักร่างทรง ชื่อ “ยายลิม” นอนตะแคงอยู่หลังสำนักทรง มีบาดแผลถูกของมีคมที่ใต้คางซ้าย คิ้วซ้าย และท้ายทอย เหตุเกิดพื้นที่ หมู่ 5 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว และคาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี
พ.ต.ท.ศราวุธ ศรีประเสริฐ รอง ผกก.สอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่านางสุรินทร์ ผู้เสียชีวิตอยู่กับบุตรชายเป็นใบ้และมีบุตรสาวอีก 1 คน ทำงานต่างจังหวัด จากการสอบสวนบุตรสาวปฏิเสธไม่ทราบการเสียชีวิตของมารดาแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมามารดาไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใคร สอบสวนบุตรชายที่เป็นใบ้ ส่วนสามี อยู่เขต อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี แต่ได้เลิกกันไปได้ราว 2 ปีเศษ ในเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุเพียงแค่วันเดียวอดีตสามีนางสุรินทร์ ได้มาไถไร่อ้อยใกล้บ้านที่เกิดเหตุ และอดีตสามีได้มีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย กระทั่งมาพบว่านางสุรินทร์ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และอดีตสามี ก็ยังมาหายตัวไป
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งกับอดีตสามีเรื่องฟ้องร้องที่ดินกัน หลังเกิดเหตุได้ให้กำลังชุดสืบสวนติดตามตัวอดีตสามีผู้ตายเพื่อจะนำตัวมาสอบสวนหาสาเหตุการตายของ
นางสุรินทร์ แต่ไม่พบตัว โดยพบว่า อดีตสามีผู้ตายได้เก็บเสื้อผ้าหายไปจากบ้าน จึงได้สั่งการให้กำลังชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวอดีตสามีของผู้ตายมาสอบสวน ตามบ้านญาติกับบ้านเพื่อน ทั้งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.อุทัยธานี และ จ.กาญจนบุรี ที่คาดว่าอดีตสามีผู้ตายจะไปพักอาศัยอยู่ด้วย เพื่อจะได้นำตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางสุรินทร์หรือไม่ ล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย. สืบทราบว่า นายพลอย พักเรือนดี อายุ 69 ปี อดีตสามีผู้ตายได้เดินทางมางานศพนางสุรินทร์ อดีตภรรยา ที่วัดเขากุฏิ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายพลอย กับบุตรชายคนที่เป็นใบ้ มาสอบสวนที่ สภ.อู่ทอง โดยได้แยกสองพ่อลูกสอบสวน เบื้องต้นนายพลอยให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันการตายของอดีตภรรยา โดยนายพลอย พยายามจะบอกกับตำรวจว่าคนร้ายอาจจะเป็นบุตรชายที่เป็นใบ้
แต่พอสอบสวนบุตรชายที่เป็นใบ้ บุตรชายผู้ตายได้สารภาพว่าคนร้ายคือนายพลอย บิดาของตนเองเป็นผู้ลงมือฆ่านางสุรินทร์เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สอบสวนเค้นนายพลอยอดีตสามีผู้ตายอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง นายพลอยจึงเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นก่อเหตุลงมีฆ่านางสุรินทร์ อดีตภรรยาเสียชีวิต
โดยรับสารภาพว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ตาย แต่โมโหที่โดนผู้ตายต่อว่าและมีปากเสียงทะเลาะกัน จึงเอามีดที่พกติดตัวมาด้วยกระหน่ำฟันที่ศีรษะผู้ตายจำนวนหลายครั้ง แล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี้ไป ซึ่งหลังเกิดเหตุได้นำเอาอาวุธมีดไปโยนทิ้งในป่าอ้อยข้างทาง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แล้วหลบหนีไป กระทั่งกลับมาที่งานศพโดยไม่คิดว่าตำรวจจะสงสัยว่าตนเป็นคนลงมือฆ่า ส่วนสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องที่ดิน เนื่องจากตนจะขายที่ดินของนางสุรินทร์แปลงหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและใช้หนี้สิน แต่นางสุรินทร์ผู้ตายไม่ยอมขาย จึงมีปัญหาทะเลาะและขัดแย้งกัน กระทั่งวันเกิดเหตุก็ได้มีเรื่องทะเลาะกันอีก ตนจึงโมโหใช้มีพกฟันศีรษะ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต
ต่อมา เวลา 20.00 น.วันที่ 26 เม.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายพลอยผู้ต้องหาไปค้นหามีดอาวุธที่ใช้ก่อเหตุในไร่อ้อย แต่ยังไม่พบและได้มีฝนตกลงมาจึงยกเลิกการค้นหา โดยในเช้าพรุ่งนี้จะค้นหาต่อ ซึ่งในช่วงสายวันที่ 27 เม.ย.เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวนายพลอยผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ เพื่อประกอบกับคำรับสารภาพ และจะได้ส่งตัวนายพลอย
ผู้ต้องฝากขังศาลสุพรรณบุรีเพื่อดำเนินคดีต่อไป