รวบแก๊งร้อยเสียง! อ้างเป็นผู้การฯ ตุ๋นเหยื่อวิ่งเต้นคดี

สืบสวนภาค 5 รวบแก๊งร้อยเสียง อ้างเป็นข้าราชการระดับสูง ลวงเหยื่อช่วยวิ่งเต้นคดี ทันตแพทย์หลงเชื่อสูญเงินเกือบแสนบาท คาดมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายราย เตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการ เชื่อมีไม่ต่ำกว่า 4 คน

พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5   สอบปากคำนายสุทธิพงษ์  ยิ้มพ่วงสินธุ์  อายุ 29 ปี   ชาวกรุงเทพมหานคร และนายเมธาสิทธิ ลาภจิตร์  อายุ   29 ปี   ทั้งสองเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย หลังร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นผู้อื่น ได้ที่บ้านพักในกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ ( 17 มี.ค.)

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26  ธ.ค. 2561  ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่  ได้จับผู้ต้องหาพนันออนไลน์ 6 ราย  ต่อมามีชายคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาอ้างตัวเป็นนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ สอบถามเกี่ยวกับเรื่องคดี  จากนั้นมีชายอีกคนอ้างตัวเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานสอบโทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้าคดี และข้อมูลของผู้ต้องหารวมทั้งเบอร์โทรศัพท์

จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ได้โทรศัพท์ไปหาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีพนันออนไลน์ ว่าจะช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดี และเรียกร้องเงิน 5 หมื่นบาทในการดำเนินการ โดยแจ้งให้โอนเงินเข้าบัญชีของนายพัสสัน เนียมแตง  แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อและแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อสืบสวนจับกุม

ต่อมาชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนและติดตามพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการที่โทรศัพท์อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูง หลอกลวงผู้เสียหายช่วยวิ่งเต้นคดี กระทั่งพบว่าขบวนการดังกล่าวได้ไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้โทรศัพท์อ้างตัวข้าราชการระดับสูงหลอกลวงทันตแพทย์เจ้าของคลีนิกทำฟันแห่งหนึ่ง  หลังมีข้อมูลว่าทันตแพทย์คนดังกล่าวเปิดคลีนิกโดยไม่มีใบอนุญาต

โดยกลุ่มขบวนการได้หลอกผู้เสียหายว่า สามารถวิ่งเต้นออกใบอนุญาตให้ได้เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี แต่ต้องเสียเงินค่าวิ่งเต้นและเดินเรื่องจำนวน 9 หมื่นบาท  ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินเข้าบัญชีของ นายเกียรติศักดิ์ บุญเรือง  จำนวน 9 หมื่นบาทและโอนเงินเข้าบัญชีของนายพัสสัน  เนียมแตง อีก 9 หมื่นบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.8 แสนบาท

พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า   คาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการแก๊งร้อยเสียง  โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 2 รายนี้ เคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงรู้ขั้นตอนการทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี   ขณะที่พฤติกรรมของผู้ต้องหาจะเข้าไปหาข้อมูลของผู้เสียหายจากข่าวสาร และเพจออนไลน์ต่างๆ เมื่อรู้จุดอ่อนของผู้เสียหาย ก็จะโทรศัพท์เข้าไปเลียนเสียงและอ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูง ทั้งนายอำเภอ รองผู้บังคับการตำรวจ ฯลฯ เพื่อวิ่งเต้นคดี และเรียกรับเงินสินบนเป็นค่าดำเนินการ

เบื้องต้นผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับกุมได้ยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า เป็นเพียงคนดำเนินการเรื่องบัญชีเท่านั้น แต่ตำรวจเชื่อว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกไม่ต่ำกว่า 4  -5 ราย  เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่หมุนเวียนในบัญชีมีไม่ต่ำกว่าวันละหลายแสนบาท

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ประชาชนที่เคยหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของแก๊งร้อยเสียง สามารถเข้าแจ้งความได้ที่ สภ.ท้องที่ทุกแห่ง หรือที่ศูนย์รับแจ้งเรื่อง กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่