รวบ 2 โจ๋ แก๊งวัดไทร โจรกรรมตู้เซฟเงินบริจาคพระอารามหลวงวัดชื่อดังฝั่งธนบุรี สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เคยต้องคดียาเสพติดมาก่อน
พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน ได้แถลงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลาง รถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุ และ ตู้เซฟยี่ห้อ OTANI ขนาดความจุประมาณ 100 ลิตร ที่ถูกงัดฝาออกแล้ว 1 ใบ เงินสด 1,325.50 บาท เครื่องเจียรไฟฟ้าพร้อมค้อนและสิ่ว 1 ชุด หมวกนิรภัย 1 ใบ และหมวกแก๊ปอีก 1 ใบ โดยจับกุมตัวทั้ง 2 รายได้ในบ้านเลขที่ 17/12 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.
พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้แทนจากวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า ตู้เซฟรับเงินบริจาค ซึ่งวางอยู่ในพระอุโบสถของทางวัด ถูกโจรใจบาปลักเอาไป จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั้งหมดในอาณาบริเวณวัด พบภาพคนร้ายทั้ง 2 ราย คือ นายทัตชัย และ นายนรินทร์ เป็นผู้ก่อเหตุลักลอบเข้าไปในพระอุโบสถก่อนช่วยกันอุ้มตู้เซฟบริจาคทั้งใบออกมา ซึ่งจากการตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานคนร้ายทั้งคู่ พบว่าตรงกับข้อมูลประวัติอาชญากรรมเก่าๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้
ทั้ง นายทัตชัย และ นายนรินทร์ ต่างก็เคยถูกจับดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดและสูดดมสารระเหยมาแล้ว จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพัก ของ นายนรินทร์ กระทั่งพบผู้ต้องหาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน พร้อมรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ และของกลางทั้งหมด
จากการสอบสวน นายทัตชัย ยอมรับว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ไม่มีญาติพี่น้องและพ่อกับแม่ก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว จึงอาศัยนอนในศาลาวัดไทร ย่านถนนเอกชัย กวาดลานวัดแลกข้าวพระกินไปวันๆ ต่อมาตนได้ไปรู้จักกับ นายยศสรัล ศักดิ์ถนอมศรี หรือ “ปิ๊ง วัดไทร” อายุ 30 ปี ชักชวนตนให้ลองเสพยาบ้าจนติด กระทั่งตนโดนตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ ติดคุกเพิ่งออกจากเรือนจำคลองเปรม มาได้ราว 1 เดือน ก็มาพบ นายยศสรัล อีก และวางแผนให้ตนเดินทางไปร่วมก่อเหตุขโมยเงินตามตู้บริจาคของวัดต่างๆในพื้นที่บางขุนเทียน เพื่อหาเงินมาแบ่งกันซื้อยาบ้า โดยเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมาหลังตนพ้นโทษ ก็ได้ร่วมกันกับ นายยศสรัล เข้าไปก่อเหตุงัดตู้ไม้รับเงินบริจาค ที่ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ทำมาแล้วกว่า5-6ครั้ง ได้เงินไปจำนวน 3 ครั้ง ได้เงินมาก็แบ่งกันคราวละ 700-800 บาท
ทั้งนี้ หลังก่อเหตุ ได้มีการนัดพบกันที่บ้านพักของ นายนรินทร์ โดย นายยศสรัล ยังได้พาเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งตนไม่ทราบชื่อ มาช่วยกันใช้เครื่องมือเปิดฝา ตู้เซฟนำเงินทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบงก์ร้อยกับแบงก์ยี่สิบ ออกมาได้ ราวๆ 3,000 บาท จากนั้น นายยศสรัล กับเพื่อนอีก 2 คน ก็แยกย้ายกันหลบหนี โดยทั้ง 3 คน ขอแบ่งเงินค่าช่วยชำแหละตู้เซฟเอาไปรวมกันประมาณ 1,700 บาท เหลือเงินไว้ให้ตนกับ นายนรินทร์ นำมาแบ่งกันทั้งสิ้น 1,325บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร และเตรียมขอหมายจับ นายยศสรัล กับเพื่อนอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้