“วิษณุ” ปักหมุด 24 มี.ค.เหมาะสุดจัดเลือกตั้ง แย้งเคาะ 24 ก.พ.ไม่ได้ หวั่นทับซ้อนกิจกรรมก่อนราชพิธี
วันที่ 4 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สอบถามผลหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้อธิบายรายละเอียดขั้นตอนเกี่ยวกับการจัดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับวันเลือกตั้ง ส่วน กกต.ได้อธิบายว่าพระราชพิธีไม่ได้มีแค่วันที่ 4-6 พ.ค.เท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดขั้นตอนก่อนและหลังของพระราชพิธีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จึงอธิบายให้ กกต.พิจารณาว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งในเป็นวันที่ 24 ก.พ.อยู่หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลยืนยันไปว่าไม่มีปัญหา หากการเลือกตั้งจะจัดก่อนพระราชพิธี การดูแลความสงบเรียบร้อย และการหาเสียงเลือกตั้งก็ไม่กระทบกับพระราชพิธี
นายวิษณุกล่าวว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่า 1.การเลือกตั้งจะต้องจัดขึ้นก่อนพระราชพิธีแน่นอน 2.การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะไม่กระทบกับพระราชพิธี 3.สิ่งที่รัฐบาลกังวลเป็นภายหลังวันที่ 24 ก.พ. เพราะจะมีการประกาศผลการเลือกตั้ง การดำเนินการเกี่ยวกับ ส.ว.ต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และอาจกระทบต่อการเสด็จพระราชดำเนินเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก จากนั้นจะเลือกประธานสภา เลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล มีกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆ อีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หาก กกต.มั่นใจว่าดำเนินการได้ทัน อาจจะจัดเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.ได้ แต่ กกต.แจ้งว่าเพิ่งทราบว่าจะมีกิจกรรมเหล่านี้ จึงขอเวลาไปพิจารณากำหนดวันอีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ได้คุยกันว่าถ้าเลือกตั้ง 24 ก.พ. จะเกิดปัญหาหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าจะเกิดปัญหาจริง แต่หากเลือกวันที่ 3,10 ,17,24, หรือ 31 มี.ค.จะได้หรือไม่ กกต.จะไปคิดดู แต่การเลือกตั้งไม่ควรเกินเดือนมี.ค.นี้ บางคนบอกว่าถ้าเลื่อนเลือกตั้งออกไป จะเกิดกระทบมากกว่าหรือไม่ ยืนยันว่าเลื่อนเข้าใกล้กว่านั้นไม่ได้ ทั้งนี้ ถ้าเลือกตั้ง 3 มี.ค.ต้องประกาศผล 3 พ.ค. หากเป็นวันที่ 10 มี.ค. ประกาศผล 10 พ.ค. ก็อาจพ้นพระราชพิธี ส่วนวันที่ 17 มี.ค. ประกาศผล 17 พ.ค. จะมีกิจกรรมหลังพระราชพิธี ดังนั้นถ้าจะขยับต้องให้พ้นวันเหล่านี้ออกไป อาทิ ถ้าเป็นวันที่ 24 มี.ค. ประกาศผล 22 พ.ค. จะพ้นจากช่วงหลังพระราชพิธีไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะปรับหรือเลื่อนวันออกไปอย่างไร ต้องให้เวลาหาเสียงอย่างเพียงพอจำนวน 52 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการเลือกตั้งยังเป็นวันที่ 24 ก.พ. กกต.จะประกาศรับรองผลให้เร็วขึ้นภายในเวลา 30 วันได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้คุยกันว่าการเลือกตั้งในครั้งก่อนๆ ผู้ที่แพ้มักจะร้องเรียน แต่เลือกตั้งครั้งนี้ใช้ระบบใหม่ โดยนับทุกคะแนนเสียง ซึ่งจะได้เห็นคนชนะร้องเรียน เพื่อทำลายคะแนนที่จะเสียไปให้กับฝั่งตรงข้าม ที่จะได้คะแนนในระบบบัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น ทำให้จะเห็นการร้องเรียนอุตลุดวุ่นวาย แม้หลายคนบอกจะ กกต.สามารถแจกใบแดง ใบเหลืองไปก่อนได้ แต่นั่นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสุดท้ายคะแนนในการจัดตั้งรัฐบาลจะเรรวน คนที่ถูกเลือกเข้ามาแล้ว อาจถูกสอยภายหลัง ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์รัฐบาลใช้กรณีนี้เป็นข้ออ้างเลื่อนเลือกตั้ง ยืนยันว่า ไม่รู้จะอ้างเพื่อให้ได้ประโยชน์อะไร เพราะการเลื่อนเลือกตั้งไม่ได้มีผลทำให้รัฐบาลอยู่ยาวไปมาก เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจได้
เมื่อถามว่า หากปฏิทินการเลือกตั้งเป็นในวันที่ 24 ก.พ. จะมีส่วนใดที่ไปชนกับงานพระราชพิธีบ้าง นายวิษณุกล่าวว่า “ชนทั้งหมด บางเรื่องวันอาจไม่ชนกัน แต่ยังไม่รู้ว่ากำหนดวันชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อใด อาทิ การเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีเปิดการประชุมรัฐสภา ที่กฎหมายเขียนไว้ว่าต้องทำภายในเวลาเท่าใด จึงอยากให้เลื่อนแล้วจบเลย ไม่ใช่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก”