“ศรีสุวรรณ“บุก กกต.จี้ยุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” ยันผิดพรป.พรรคการเมือง–ขัดรัฐธรรมนูญ ดึงสถาบันมาหาเสียง บีบหัวหน้าพรรค–กรรมการบริหาร แสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากตำแหน่ง
11 ก.พ.62-เวลา 10.25 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อให้พิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ ทั้งนี้ ในเนื้อหาคำร้องระบุว่า ตามที่มีการเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)ตามมาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ที่เรียกว่าบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้าวันที่ 8 ก.พ. 2562 นั้น ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย ซึ่งก่อให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนทั่วไป ด้วยคำถามใหญ่ที่ว่า “การเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ” ซึ่งเป็นพระบรมจักรีวงศ์สามารถทำได้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือไม่ ซึ่งทางพรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าทำได้และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการเนื่องจากไม่มีบทกฎหมายใดห้ามไว้ และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 89 ทุกประการนั้น
แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการ โปรดเกล้าฯเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ.62 ว่า มิให้ “ทูลกระหม่อมหญิง” ลงเล่นการเมือง เนื่องจากเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ รวมทั้งขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยพรรคไทยรักษาชาติจึงเป็นการเสนอผู้ที่ขาดคุณสมบัติหรือ มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 13 วรรคสอง ประกอบมาตรา 14(2) ของพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ที่สำคัญเป็นการดำเนินการที่ละเมิดต่อข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 โดยชัดแจ้งมด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมหลักฐานไปเป็นต้นเรื่องแจ้งต่อ กกต. เพื่อให้วินิจฉัยว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติกล่าวขัดต่อกฎหมาย และระเบียบการหาเสียงของ กกต. ข้อ 17 อันเข้าข่ายองค์ประกอบมาตา 92(2) ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 จึงเห็นว่า กกต.ควรจะต้องนำกรณีดังกล่าวเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรัษาชาติต่อไป
นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า การกระทำของไทยรักษาชาติดึงสถาบันมาหาเสียง ซึ่งผิดกฎหมายชัดเจน จึงเข้าข่ายความผิดชัดเจน ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่กกต.ต้องหาความจริงพร้อมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ากกต.วินิจฉัยโดยเร็ว เพื่อส่งให้ศาลวินิจฉัยโดยเร็วเช่นกัน แต่หาก กกต.ดำเนินการล่าช้า ก็เกรงว่าความวุ่นวายจะกลับมา จงขอให้ กกต.เร่งดำเนินการวินิจฉัยเพื่อหาข้อยุติ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีแถลงการณ์จากไทยรักษาชาติออกมา แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ต้องแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งด้วย ทั้งนี้ ขอให้นักการเมืองหาเสียงตามวิธีการประชาธิปไตยที่ปกติ อย่านำสภาบันมาหาเสียงใดๆ ทั้งสิ้น