ศาลศาลฎีกา พิพากษายืน จำคุก 4 มือวางระเบิดรามคำแหง 43/1 คนละ 33 ปี 4 เดือน จนท.คุมตัวผู้ต้องหาขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ในวันนี้ ศาลอาญา ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 6
เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัฟฟาฮัม หรือ “โจ” สะอะ / นายอิคดริส หรือ “เยะ” สะตาปอ / นายคัมภีร์ หรือ “ภีร์”ลาเต๊ะ และ นายอิบรอเฮง หรือ “เฮง” แวแม เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น,ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุสมควรจากกรณีเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค.2556 จำเลยทั้งสี่ ได้ร่วมกันประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง ก่อนนำไปวางไว้ บริเวณจุดทิ้งขยะ หน้าร้านทำผมออกัส รามคำแหง 43/1 จนระเบิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และมีร้านค้าแผงลอย อาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 402,000 บาท หลังเกิดเหตุทั้งหมดพากันหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและได้จับกุมจำเลยดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสี่ คนละ 50 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดโทษ เหลือจำคุกจำเลยคนละ 33 ปี 4 เดือน
ทั้งนี้ ศาลฎีกา ได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 4 ให้การรับสารภาพ โดยได้ให้การไว้กับพนักงานสอบสวน มีทนายความและคณะกรรมการอิสลามร่วมอยู่ด้วย พยานหลักฐานโจทก์หนักแน่นเชื่อถือได้ว่าจำเลยทั้ง 4 กระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลอุทธรร์ จำคุกจำเลยทั้ง 4 คนละ 33 ปี 4 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว จำเลยทั้งสี่คนมีใบหน้าเรียบเฉย โดยวันนี้มีญาติจำนวนหนึ่ง เดินทางมาให้กำลังใจด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวจำเลยทั้งหมดไปคุมขัง ยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป