พบศพสาวมุสลิมถูกฆ่าฝังทรายบริเวณข้างบ้านตัวเอง คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ตำรวจเร่งล่าสามี หลังหายตัวอย่างไร้ร่องรอย
24 ก.พ. 2562 เมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.ท.สุวัฒน์ องตอง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุฆ่าฝังดินภายในบ้านเลขที่ 8/101 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ ซอย 86 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ แพทย์เวร รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต๊กตึ๋ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 75 ตารางวา มีพื้นที่รอบตัวบ้าน และอยู่ในรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจสอบบริเวณซอกทางซ้ายมือของบ้าน มีกองทรายตั้งไว้ และพื้นดินที่อยู่ในลักษณะเหมือนเพิ่งถูกฝังกลบอะไรบางอย่าง จึงทำการขุดลึกลงไปราว 60 เซนติเมตร พบศพ นางอิษฎา อุส่าห์เพียร อายุ 35 ปี ภรรยาของเจ้าของบ้านถูกฝังอยู่ใต้ดิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กันสื่อมวลชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าภายในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด
สอบสวน นายวิชัย สอิ๊ดประเสริฐ อายุ 69 ปี เจ้าหน้าที่จัดการศพประจำมัสยิดในละแวกดังกล่าว เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่ 6 คน มีนายนพ โสภณวสุ อายุ 36 ปี สามีผู้ตาย ตัวผู้ตาย และลูกๆ ชายหญิงอีก 4 คน โดยลูกสาวมีอยู่ 3 คน และลูกชายอีก 1 คน ที่ผ่านมานางอิษฎา ผู้เสียชีวิตและสามีต่างป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามีประวัติรักษาตัวต้องรับประทานยาตลอด ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ประกอบอาชีพเป็นนายหน้าจัดหาบ้านเช่าและห้องเช่า แต่ตอนนี้น่าจะไม่ได้ทำงานอะไร กระทั่งวันนี้มีญาติของ นางอิษฎา ไปตามตนมาดูที่พื้นดินจุดที่พบศพ เพื่อให้ตนลองขุดลงไปดู พอตนขุดได้ประมาณ 30 เซนติเมตร ก็พบมือของผู้ตาย จากนั้นจึงหยุดเพื่อแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า หลังพบศพนายนพ ได้หายหน้าจากบ้านไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา นายนพ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ ว่าภรรยาหายไป จากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ทำอย่างไรก็หาไม่พบ จนวันนี้ทางญาติฝ่ายหญิงสงสัยมาดูที่บ้านพบกองทรายอยู่ข้างบ้าน ซึ่งปกติไม่เคยมีมาก่อน จึงเรียกเจ้าหน้าที่มัสยิดมาขุดจนพบศพเบื้องต้น ล่าสุดขณะนี้อยู่ระหว่างกำลังนำศพขึ้นจากหลุมมาทำการชันสูตรว่าผู้ตายเสียชีวิตด้วยเหตุใด พอจะมองเห็นบาดแผลที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ และตายมากี่วันแล้ว ส่วนตัว นายนพ ที่หายไปนั้นจะติดตามมาสอบปากคำให้แน่ชัดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น. การดำเนินการขุดศพ นางอิษฎา ภายในบ้านพักยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นพบว่าร่างผู้ตายถูกฝังในลักษณะคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินคาดเทา นุ่งกางเกงขายาวลายสก็อตสีแดงดำ จากการตรวจสอบตามร่างกายพบว่าเริ่มเน่าเปื่อยมากแล้ว
เบื้องต้นตรวจพบบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดที่ศีรษะด้านหลัง 1 แผล และที่แผ่นหลังเหนือสะโพกมีแผลฉกรรจ์คล้ายถูกแทงด้วยของมีคม 1 แผล เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ สอดคล้องกับชนวนสังหารที่ทำให้เชื่อว่า สามีผู้ตายเป็นคนลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไป เนื่องจากชุดคลี่คลายคดีพบข้อมูลว่าเมื่อประมาณปี 2559 ผู้ตายและสามีเคยตัดสินใจแยกกันอยู่มาระยะหนึ่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่ด้วยกันได้ไม่กี่เดือน แต่ก็มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งมาโดยตลอด รวมถึง รปภ.ของทางหมู่บ้านก็ให้การว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา เห็นรถบรรทุกทรายนำทรายเข้ามาส่งที่บ้านหลังนี้ 2 เที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งรัดติดตามตัวสามีผู้ตายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป