สลด! พิธีศพเหยื่อรถทัวร์มรณะ ด้านบริษัทรถทัวร์ยังปิดทำการ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนักโชเฟอร์
ภายหลังจากเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน 18 ราย กลับมายัง จ.กาฬสินธุ์ ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยวัดป่าพุทธมงคล อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ญาติได้นำศพผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีรวมกัน 8 ศพ โดยในวันนี้ พระราชศีลโสภิต เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ฝ่ายมหานิกาย ได้ลงสวดและจัดสถานที่ในการเตรียมการประกอบพิธีทางศาสนานายสมัย สุทธิชุม ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยังรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็คงต้องทำใจ และขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และทางจังหวัด ที่ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งกำหนดการในการฌาปนกิจศพนั้นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมนี้
ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เร่งรัดให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ โดยเฉพาะทีมแพทย์จะต้องเข้าฟื้นฟูสภาพจิตใจ และคาดว่าจะต้องใช้เวลามากกว่า 2 เดือน ขณะที่การจ่ายเงินชดเชยให้เร่งรัดตามกฏหมายและให้ได้ค่าชดเชยสูงสุด ในส่วนทางคดีขึ้นอยู่กับท้องที่เกิดเหตุแต่หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็พร้อมที่จะให้ สำนักงานยุติธรรม เข้าให้ความช่วยเหลือทางกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น บริษัท อาคเนย์ ประกันภัยรถยนต์ จะต้องจ่ายค่าสินไหมกับกับผู้เสียชีวิตรายละ 650,000 บาท
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจที่ทำการบริษัท “กันเองทัวร์” เจ้าของรถทัวร์คันเกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนกุดยางสามัคคดี ในเขตอำเภอเมือง ยังพบว่ายังคงปิดตัว ซึ่งคาดว่าเจ้าของกิจการกำลังติดต่อประสานในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา และในช่วงบ่ายวันนี้ ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เตรียมที่จะเข้าไปตรวจสอบสภาพรถทุกคันของทางบริษัท และใบอนุญาตขนส่งประกอบกิจการท่องเที่ยว
ในส่วนความคืบหน้าด้านคดี พลตำรวจโท ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประพัฒน์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 3 เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันประชุมเพื่อสรุปผลการสอบปากคำ นายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี โชเฟอร์รถทัวร์คันเกิดเหตุ หลังจับกุมได้ขณะเดินโซซัดโซเซอิดโรยอยู่ในหมู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 7 กิโลเมตร
นายกฤษณะ รับสารภาพว่า เป็นคนขับรถทัวร์จริง หลังเกิดเหตุกลัวความผิด จึงอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหนี โดยก่อนเกิดเหตุขับรถวิ่งลงเขาลาดชัน รถวิ่งด้วยความเร็วสูงพอสมควร แต่เกิดปัญหาเบรกแตกขณะเข้าทางโค้ง มีรถบรรทุกอ้อยขวางช่องทางซ้าย จึงหักแซงขวา แต่รถเสียหลักพุ่งข้ามแนวขอบซีเมนต์สูง 1 เมตร กั้นเกาะกลางถนน ข้ามไปถนนอีกฝั่ง พุ่งชนสิ่งกีดขวางและพลิกคว่ำ
ขณะที่ล่าสุดได้นำตัวนายกฤษระ ไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ปักธงชัย เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตที่มาติดต่อกับตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ส่วนการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย โดย นายกฤษณะยอมรับว่า ได้เสพยาบ้า 2 ครั้งในระหว่างขับรถ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ และมีสารเสพติดในร่างกาย ดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนประชุมขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถึงกรณีดังกล่าว ว่าตั้งแต่ปี 2558 กรมการขนส่งทางบก ไม่ต่อทะเบียนและใบอนุญาตให้รถบัส 2 ชั้นแล้ว ส่วนรถเก่าไม่ได้วิ่งให้บริการมานานแล้ว ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะมีการกวดขัน ให้รถบัสมีความแข็งแรงมากขึ้น พร้อมกันนี้ บขส.จะต้องปรับปรุงให้รถมีประสิทธิภาพและให้ประชาชนปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นเมื่อรถบัสไม่มีมาตรฐานก็ไม่สามารถวิ่งได้
ส่วนที่พบว่าพนักงานขับรถเสพยาเสพติดนั้น ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะมีการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ทุก 3 ปี พร้อมทั้งกำชับว่าจะต้องเข้มงวดในการตรวจสารเสพติดของพนักงานขับรถ แต่ยอมรับจะให้ไปตรวจจับทุกคนคงเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับการคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกคนต้องตระหนักถึงอุบัติเหตุและนึกถึงความปลอดภัยของตัวเอง