สองสามีภรรยา แจ้งความเอาผิดสายตำรวจ หลังลวงไปข่มขืนขณะกักตัวไว้เพื่อต่อรองให้ล่อซื้อยาเสพติด
ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี พา นางบี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ภรรยาเข้าพบ พันตำรวจเอกประสาทพร ศรีสุโข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ดำเนินคดีกับนายวิทูรย์ สีสุภาพ หรือ นายสั้น อายุ 38 ปี หลังเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นายสั้นได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานางบี ขณะที่นำตัวไปกักขังไว้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในเขตตำบลศาลาแดง หลังสามีของนางบี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปราบยาเสพติดบุกค้นบ้านและพบยาบ้าจำนวน 6 เม็ด ก่อนที่ตำรวจชุดดังกล่าวขอร้องให้ นางบีช่วยล่อซื้อขยายผลยาเสพติด โดยนำนางบีไปฝากไว้กับนายสั้น ที่เป็นสายของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจนถูกข่มขืน
นายเอ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะตนอยู่ที่บ้านในหมู่ที่ 1 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ตำรวจชุดดังกล่าวที่มี ดาบ.อ และดาบ ย. รวมถึงนายสั้น นายเติ้ล ที่เป็นสายของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้เข้าตรวจค้นบ้านพัก และพบยาบ้าที่ตนมีไว้เสพจำนวน 6 เม็ด จึงนำตนพร้อมภรรยามาสอบสวนและให้นางบีล่อซื้อยาบ้าจากเอเย่นต์รายใหญ่เพื่อขยายผล แลกกับการไม่ดำเนินคดีภรรยาตนในข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนตนก็ถูกนำตัวเข้าห้องขัง
จากนั้นอีกสองวัน หลังจากตนเองได้ประกันตัวออกมา เห็นภรรยาร้องไห้และไม่พูดจาตนจนเค้นถามก็ได้ความว่าถูกนายสั้นข่มขืนขณะที่พาไปพักที่บ้านของนายสั้นเพื่อรอขยายผล จึงตัดสินใจมาพบตำรวจ
ขณะที่นางบี เปิดเผยว่า หลังสามีตนโดนจับไป ทางดาบ อ.ได้บอกให้ตนติดต่อซื้อยาบ้าจากเอเย่นต์เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีข้อหาเสพยาบ้า แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเย็นมากแล้วจึงให้นายเติ้ลกับนายสั้นพาตนไปกักตัวไว้ที่บ้านของนายสั้น โดยให้เข้าไปนอนในห้องแต่ไม่ยอมให้ล๊อคประตูเนื่องจากกลัวตัวเองจะหนีประมาณ 4 ทุ่ม นายสั้นเข้ามาพูดคุยก่อนที่จะลวนลามตนและใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้พักอยู่ในห้องจนเช้าวันรุ่งขึ้นก็พาไปทำงานล่อซื้อยาแต่เอเย่นต์ยาบ้าไหวตัวทันจึงไม่สำเร็จ สุดท้ายจึงปล่อยตัวตนมาโดยขู่ว่าห้ามไปบอกใคร
ด้าน พลตำรวจตรีสุรินทร์ ทับพันบุปผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ทาง สถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทองดำเนินคดีในเรื่องของการข่มขืนกระทำชำเรา ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปล่อยปละละเลยให้ผู้หญิงไปอยู่เช่นนี้ตามลำพังจนเกิดเหตุนั้น ได้แนะนำให้มาพบเพื่อทำเรื่องร้องเรียน และจะได้ดำเนินการในเรื่องของการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยถึงความบกพร่องในครั้งนี้ โดยหากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินการทางวินัยทันที