คืบหน้าคดีสาวขับเบนซ์ถูกสาดพริกผสมน้ำปลาใส่หน้า ผ่านไป 3 วันคดีไม่คืบ จี้ตำรวจเร่งตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
5 พ.ย.61 ความคืบหน้ากรณีสังคมออนไลน์แห่แชร์ ภาพหญิงวัย 48 ปี ต้องทำการรักษาดวงตา เพราะถูกคนร้ายนำกระปุกน้ำปลาผสมพริกป่น สาดเข้าใส่ใบหน้าจนมีอาการอักเสบไม่สามารถมองเห็นได้ขณะขับรถเบนซ์คู่ใจ ไปติดไฟแดง อยู่ที่แยกจตุจักร ซึ่งจนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 3 วัน ตั้งแต่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแต่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ล่าสุดนางวาสนา(นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ถูกสาดพริกป่นผสมน้ำปลา เข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี อีกครั้ง พร้อมกับนำรถเบนซ์ที่ประสบเหตุมาให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ โดยเปิดเผยว่า เหตุเกิดขณะที่รถติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกที่เกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายเป็นผู้หญิงสวมหมวกนิรภัย ทำทีมาเคาะกระจกด้านฝั่งข้างคนขับเมื่อลดกระจกลง คนร้ายก็สาดน้ำปลาพริกป่นใส่ทันที จนเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังและดวงตา จากนั้นก็พยายามขับรถประคองจนถึงบ้าน ก่อนอาบน้ำล้างตัวแล้วไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว มั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะตนพกเงินสด 8 แสนบาทใส่ในกระเป๋าถือวางไว้บนเบาะข้างคนขับ เพราะที่ผ่านมางตนเองและทางครอบครับ ไม่เคยมีปัญหากับใคร
ทางด้าน ร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังคงลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานหาตัวคนร้าย ส่วนสาเหตุนั้นจากการสอบถามผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน แต่เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นไว้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากคนร้ายไม่ประสงค์ชิงทรัพย์สินของผู้เสียหาย และหลังจากนี้จะส่งรถคันที่เกิดเหตุ ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจหาหลักฐาน และตรวจว่ามีสารพิษอะไรหรือไม่ ซึ่งจะทราบผลภายใน 15 วัน โดยเบื้องต้นการก่อเหตุของคนร้าย เข้าข่ายความผิดทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ